กรมอุตุนิยมวิทยา คาดหมายสภาพอากาศล่วงหน้า 7 วัน ระหว่างวันที่ 9 - 15 เมษายน 2556 โดยระบุว่า การคาดหมายในช่วงวันที่ 10-15 เม.ย. บริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนอีกระลอกหนึ่งจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน ทำให้ประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนโดยมีฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงเกิดขึ้น และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส ส่งผลให้อากาศคลายความร้อนลง ส่วนลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. ข้อควรระวัง ในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 35-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-25 องศาเซลเซียส mลมตะวันตก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากทางตอนล่างของภาค อุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 19-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 4-6 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 18-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ภาคกลาง ในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. อากาศร้อนถึงร้อนจัด กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 36-40 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ภาคตะวันออก ในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. อากาศร้อน โดยมีพายุฝนฟ้าคะนองบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ และมีลมกระโชกแรงบางพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 32-38 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-28 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน โดยมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 20-40 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 3-5 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง ประมาณ 1 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) ในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. อากาศร้อน และมีฝนฟ้าคะนองบางแห่งถึงเป็นแห่งๆ ร้อยละ 10-20 ของพื้นที่ อุณหภูมิสูงสุด 34-39 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆถึงกระจาย ร้อยละ 30-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-24 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 9-11 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณตอนล่างของภาค อุณหภูมิสูงสุด 32-37 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 23-27 องศาเซลเซียส ลมตะวันตก ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนในช่วงวันที่ 12-15 เม.ย. มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40-60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส ลมแปรปรวน ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ส่วนบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูง 1-2 เมตร กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ในช่วงวันที่ 9-10 เม.ย. อากาศร้อน กับมีฟ้าหลัวในตอนกลางวัน อุณหภูมิสูงสุด 31-36 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส ลมใต้ ความเร็ว 10-30 กม./ชม. ส่วนในช่วงวันที่ 11-15 เม.ย. อากาศร้อนในตอนกลางวัน มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20-30 ของพื้นที่ และอุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ข่าวเด่น