เบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับลดลง 2.22 ปิดที่ 97.69 เหรียญฯ และเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับลดลง 2.04 ปิดที่ 86.68 เหรียญฯ - ราคาน้ำมันปรับตัวลดลงต่อจากความกังวลของนักลงทุนต่อการขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลก หลังล่าสุดกองทุนการเงินระหว่างประเทศออกมาปรับลดคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของโลกในปีนี้และปีหน้าลงมาอยู่ที่ 3.3% และ 4.0% จากคาดการณ์เดิมในเดือน ม.ค.ที่ 3.5% และ 4.1% โดยสาเหตุสำคัญเนื่องจากการปรับลดรายจ่ายภาครัฐของสหรัฐฯ และปัญหาหนี้สินในยุโรป โดย IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะกัลบมาขยายตัวได้ดีอีกครั้งในปี 2014 - ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นเทียบกับค่าเงินยูโรภายหลังจากการให้สัมภาษณ์ของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของธนาคารยุโรปว่าธนาคารกลางยุโรปพร้อมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงหากสภาพเศรษฐกิจในกลุ่มยุโรปมีสภาพที่แย่ลง - นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังถูกกดันจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงวานนี้หลังแบงก์ออฟอเมริกาประกาศผลประกอบการณ์ไตรมาส 1 ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด เช่นเดียวกับหุ้นของแอปเปิ้ลที่ดิ่งลงกว่า 5% หลังจาก ผู้ผลิตชิพแก่แอปเปิ้ลลดตัวเลขประมาณการณ์ผลกำไรของบริษัทฯ ลง ตอกย้ำความกังวลเรื่องปริมาณความต้องการไอโฟนและไอแพดที่กำลังลดลง +/- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) ประกาศปริมาณน้ำมันคงคลังประจำสัปดาห์ พบว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังปรับลดลง 1.23 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่คาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล เนื่องจากปริมาณนำเข้าน้ำมันดิบลดลง 0.289 ล้านบาร์เรลต่อวัน แต่อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่ง (จุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI) ปรับเพิ่มขึ้น 1.08 มาอยู่ที่ 51.15 ล้านบาร์เรล ในส่วนของน้ำมันเบนซินคงคลังปรับลดลง 0.63 ใกล้เคียงกับคาดการณ์ที่ปรับลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล ในส่วนของน้ำมันดีเซลคงคลังเพิ่มขึ้น 2.36 ล้านบาร์เรล สวนทางคาดการณ์ที่ปรับลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล + ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อยหลังปิดตลาดหลังจากบริษัทน้ำมันเชลล์ประกาศปิดฉุกเฉินท่อขนส่งน้ำมันในไนจีเรียที่มีกำลังการส่งกว่า 150,000 บาร์เรลต่อวันเพื่อหยุดซ่อม ส่งผลให้บริษัทฯไม่สามารถส่งออกน้ำมันดิบจากไนจีเรียได้ ทั้งนี้เชลล์ไม่ได้ระบุว่าจะใช้เวลาซ่อมท่อดังกล่าวนานเท่าไร ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ภายในภูมิภาคที่มีอย่างต่อเนื่องจากทั้งเวียดนามและอินโดนีเซีย อย่างไรก็ดีตลาดยังคงมีความกังวลอยู่ว่าอินโดนีเซียอาจนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือน พ.ค.น้อยกว่าเดือน เม.ย. ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงเล็กน้อยสวนทางราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ดีความต้องการภายในภูมิภาคยังมีอย่างต่อเนื่องช่วยหนุนไม่ให้ราคาปรับลดลงมากนัก ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เบรนท์ 93-100 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส 83 -90 เหรียญฯ ติดตามผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานและดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ การประชุมกลุ่มประเทศ G20 ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพฤหัส: ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานและดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ การประชุมกลุ่มประเทศ G20 วันศุกร์: ดุลบัญชีเดินสะพัดยูโรโซน การประชุม IMF - ติดตามความคืบหน้าของผลการเลือกตั้งประธาธิบดีเวเนซูเอล่าหลังมาดูโร ได้รับเสียงส่วนมากและชนะการเลือกตั้ง แต่ผู้สมัครพรรคตรงข้ามอ้างว่านายมาดูโรโกงการเลือกตั้งและยังมีประชาชนส่วนหนึ่งยังประท้วงผลการเลือกตั้งอยู่ - จับตาการประชุมกลุ่มประเทศ G20 และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ว่าจะมีมุมมองต่อภาวะเศรษฐกิจและนโยบายการเงินการคลังอย่างไร หลังหลายประเทศในยูโรโซนยังต้องเผชิญกับภาวะหนี้สาธารณะสูงและตัวเลขสหรัฐฯ เริ่มส่งสัญญาณชะลอตัวลง - จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังยังไม่มีพรรคใดจัดตั้งรัฐบาลได้ ล่าสุดประธานาธิบดีของอิตาลีได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อปูทางให้ประธานนาธิบดีคนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งภายในเดือน เม.ย. ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในปีนี้ - ติดตามความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ หลังสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อเกาหลีเหนือขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีฐานทัพสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ รวมทั้งขู่ที่จะปิดนิคมอุตสาหกรรมแคซองซึ่งเป็นความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยล่าสุดญี่ปุ่นและสหรัฐฯ ได้เตรียมอาวุธที่จะต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
ข่าวเด่น