วันนี้ (18 เม.ย. 56) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel ถึง

กรณีการต่อสู้ในคดีเขาพระวิหาร ซึ่งวานนี้ฝ่ายไทยแถลงด้วยวาจาต่อศาลโลกว่า “ผมคิดว่าต้องขอแสดงความชื่นชมท่านทูตวีรชัย แล้วก็คณะทนาย ที่ได้ต่อสู้อย่างเข้มแข็ง แล้วก็เตรียมข้อมูลหลายเรื่องมาเป็นอย่างดี โดยเฉพาะกรณีของแผนที่ การอ้างอิงกลับไปในคำวินิจฉัย หรือคำพิพากษาเดิม ซึ่งชี้ชัดว่ามันไม่ใช่เป็นเรื่องที่จะมาชี้เรื่องเขตแดน เรื่องแผนที่ แล้วก็ลำดับเหตุการณ์ต่างๆ ที่พูดถึงความพยายามของทางฝ่ายกัมพูชา ที่จะเรียกว่าอุทธรณ์หรือจะเรียกว่ามาขอให้มีการกลับคำตัดสินกันใหม่ แล้วก็การรุกคืบขึ้นมาผ่านกระบวนการเรื่องมรดกโลก เรื่องอะไร ก็ประเด็นก็ค่อนข้างจะครอบคลุม แล้วก็ได้นำเสนอได้อย่างดี

ผมคิดว่าเป็นที่ประทับใจของคนจำนวนมากนะครับ ต้องขอชื่นชมในการทำงานของคณะนี้ แล้วก็อยากจะให้รัฐบาลสนับสนุน ให้กำลังใจ ในการต่อสู้อย่างเข้มแข็งต่อเนื่อง เพราะว่ายังไม่จบนะครับ ยังไม่จบ เพราะฉะนั้นวันนี้ก็คงต้องเตรียมฟังต่อว่าทางฝ่ายกัมพูชาเองจะมีการหักล้าง หรือมีการนำเสนอประเด็นอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ อย่างไรก็ตามของเราเองนั้น ผมคิดว่า ก็ควรที่จะต้องมีการดำเนินการในการไปสำรวจ ตรวจสอบ ทั้งสิ่งที่กัมพูชาจะแถลงในวันนี้ แล้วก็แถลงมาเมื่อวันก่อนว่ายังมีประเด็นใดที่จำเป็นจะต้องไปหักล้างเพิ่มเติม

เพราะว่าผมก็สังเกตว่า ประเด็นที่เราได้นำเสนอได้เป็นอย่างดี ในเรื่องของข้อเท็จจริงต่างๆ นี้ในวันแรก กัมพูชาพยายามคงจะเดาออกครับเช่นประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแผนที่ก็ดี แล้วก็ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ MOU 2543 ก็ดี ผมสังเกตว่าทางกัมพูชาพยายามที่จะพูดไว้ล่วงหน้าว่า ประเด็นเหล่านี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับคดี หรือว่าไม่สามารถที่จะนำมาประกอบการพิจารณาได้ ไปอ้างอิงข้อกฎหมายอะไรก็แล้วแต่ ซึ่งประเด็นเหล่านี้ผมคิดว่าอยากให้ฝ่ายไทยได้หักล้างให้ชัดเจนไปเลยว่า ทำไมมันเกี่ยวข้องแล้วก็สิ่งที่กัมพูชาพยายามสร้างความสับสนขึ้นมา เพื่อที่จะทำให้เห็นว่าศาลต้องรับคดีนี้มันเกิดความสงสัยอะไรต่างๆ ความไม่ชัดเจน เช่นไปอ้างอิงว่า ครม. เมื่อปี 05 ยังมีทางเลือกเลยว่าจะขีดเส้นอะไรทางไหนตรงไหน ซึ่งความจริงไม่ใช่ประเด็น

ประเด็นคือเราเข้าใจคำพิพากษาของศาลเป็นอย่างดี ปฏิบัติตาม ทางเลือกต่างๆ ก็สอดคล้องกับคำพิพากษาทั้งสิ้นอะไรแบบนี้ ผมคิดว่าก็ควรจะเก็บตกให้หมดครับ ไม่ควรประมาท อะไรก็ตามซึ่งเขาหยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นที่เป็นคุณกับเขาก็หักล้างเสียให้หมด แต่ว่าการนำเสนอในมุมของเราเมื่อวานนี้ผมคิดว่าทำได้ดีครับ”

 เมื่อถามว่า คิดว่าเราสามารถหักล้างข้อกล่าวหาของกัมพูชาได้หมดอย่างมีเหตุมีผลหรือไม่

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า “ผมคิดว่า ต้องยอมรับอย่างหนึ่งในปัญหาสำหรับผมนั้น เนื่องจากว่าติดตามเรื่องนี้มาใกล้ชิดมาโดยตลอด บางทีพอกัมพูชาเสนออะไรมา ซึ่งเราเห็นว่ามันไม่ค่อยจะถูกต้อง หรือสร้างความสับสน หรือพูดง่ายๆ ว่าเป็นเท็จ เราก็จะมีความรู้สึก แล้วก็เห็นชัดเจนอยู่แล้ว แล้วก็ขณะเดียวกันสิ่งที่ฝ่ายไทยได้นำเสนอไป เมื่อตรงกับแนวทางที่เราคิด แล้วก็เข้าใจอยู่แล้ว บางทีก็เลยทำให้ยากเหมือนกันนะครับที่จะประเมินว่า สำหรับศาลซึ่งอาจจะไม่ได้ใกล้ชิดกับปัญหาอย่างนี้มาต่อเนื่อง มันจะต้องมีอะไรเพิ่มเติม

แต่อย่างที่ผมบอกก็คือ ผมคิดว่าในมุมของเราที่ต้องการนำเสนอเมื่อวานนี้นำเสนอได้ดี หลายประเด็นก็เป็นการชี้ให้เห็นถึงการที่กัมพูชานั้น พยายามใช้เล่ห์เหลี่ยม แล้วก็มีการนำเสนอข้อมูลหลายอย่างที่ไม่เป็นจริง แต่อย่างไรก็ตามผมคิดว่า เราก็ต้องไปไล่ดูคำแถลงของเขาอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง ทั้งวันก่อน แล้วก็วันนี้ เพื่อหักล้างให้มันครบถ้วน

ผมถึงบอกว่าเมื่อวานนี้ ถ้าเกิดใครฟังเรื่องแผนที่ เรื่องอะไรนั้น จะเข้าใจชัดเจนเลยว่าแผนที่ 1:200,000 นั้น สถานะมันไม่ได้รับการยอมรับ มันใช้ไม่ได้อะไรอย่างไร แต่ว่าอย่าลืมว่าวันก่อน กัมพูชาก็พูดว่าเรื่องประเด็นเทคนิคแผนที่ ไม่ใช่ประเด็นหลัก ไอ้อย่างนี้เราก็ต้องคงต้องไปพูดให้มันชัดว่า ทำไมมันเป็นประเด็นที่ต้องมาประกอบการพิจารณา เพราะเรากำลังจะตีความให้เกิดการปฏิบัติการได้ และกัมพูชายอมรับเองว่ามันปฏิบัติไม่ได้ จึงมาเซ็น MOU 43 กับเรา”