ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปิดเหนือ 100 เหรียญฯ อีกครั้ง จากแรงซื้อทางเทคนิค


เบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.74 ปิดที่ 100.39 เหรียญฯ และเวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน พ.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.75 ปิดที่ 88.76 เหรียญฯ
 
+ นักลงทุนยังคงทยอยกลับเข้ามาซื้อสัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าทั้งในตลาดสหรัฐฯ และอังกฤษ หลังจากราคาปรับลดลงต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ในช่วงสัปดาห์ก่อน นอกจากนี้ตลาดน้ำมันยังได้รับแรงหนุนจากตลาดหุ้นและทองคำในสหรัฐฯ ที่ดีดตัวสูงขึ้นเช่นกัน  ซึ่งชี้ให้เห็นว่านักลงทุนเริ่มมีความมั่นใจในการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น
 
+ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นเชื่อว่าญี่ปุ่นจะแก้ปัญหาเงินฝืดได้ภายใน 2-3 ปี และจะทำให้การบริโภคภายในประเทศปรับตัวสูงขึ้น ในการสัมภาษณ์หลังจากการประชุมรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศ G20 ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ของธนาคารกลางญี่ปุ่น
 
+/- นักลงทุนรอดูทิศทางเศรษฐกิจของจีนและสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา โดยสัปดาห์นี้จะมีตัวเลขที่สำคัญคือ ดัชนีภาคการผลิตของทั้งสหรัฐฯ และจีน และจีดีพีไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ซึ่งจะส่งผลกับความมั่นใจของนักลงทุนค่อนข้างมากเนื่องจากราคาน้ำมันอยู่ในช่วงปรับฐาน
 
- ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ ปรับลดลง 0.6% ในเดือน มี.ค. มาอยู่ที่ 4.92 ล้านหน่วยต่อปี สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเป็น 5.01 ล้านหน่วยต่อปี อย่างไรก็ตามราคาบ้านมือสองปรับเพิ่มขึ้นถึง 11.8% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับขึ้นแรงที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ย. 2548 ในขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซนยังคงติดลบที่ -22.3 จุด ในเดือน เม.ย. แต่ดีกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้เล็กน้อย
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ทรงตัวตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ในขณะที่ความต้องการน้ำมันเบนซินในภูมิภาคยังอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากอินโดนีเซียน่าจะลดการนำเข้าเหลือเพียง 8.5 ล้านบาร์เรลในเดือน พ.ค. จาก 9 ล้านบาร์เรลในเดือนนี้
 
ราคาน้ำมันมันดีเซล ทรงตัวตามราคาน้ำมันดิบดูไบเช่นกัน โดยตลาดน้ำมันดีเซลในภูมิภาคยังคงถูกกดดันจากอุปทานที่ปรับเพิ่มขึ้นจากโรงกลั่นที่กลับมาจากการซ่อมบำรุง และความต้องการใช้น้ำมันดีเซลสำหรับทำความร้อนหมดไป
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้าเบรนท์ 95-102 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัส  85 -92 เหรียญ ติดตามดัชนีภาคการผลิตของทั้งสหรัฐ จีน และยุโรปที่จะประกาศวันนี้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันอังคาร: ดัชนีภาคการผลิตและบริการยูโรโซน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีราคาบ้านและดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตจีน โดย HSBC
วันพุธ: ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจเยอรมนี (Ifo) ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนสหรัฐฯ
วันพฤหัส: ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ อัตราการว่างงานสเปน ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซน
วันศุกร์: จีดีพีไตรมาส 1 ของสหรัฐฯ ความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ (ม.มิชิแกน)
 
  - ติดตามความคืบหน้าของผลการเลือกตั้งประธาธิบดีเวเนซูเอล่าหลังมาดูโร ได้รับเสียงส่วนมากและชนะการเลือกตั้ง แต่ผู้สมัครพรรคตรงข้ามอ้างว่านายมาดูโรโกงการเลือกตั้งและยังมีประชาชนส่วนหนึ่งยังประท้วงผลการเลือกตั้งอยู่
 
- จับตาความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลี หลังยังไม่มีพรรคใดจัดตั้งรัฐบาลได้ ล่าสุดประธานาธิบดีของอิตาลีได้แต่งตั้งคณะที่ปรึกษาในการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อปูทางให้ประธานนาธิบดีคนใหม่ที่จะมีการเลือกตั้งภายในเดือน เม.ย. ยุบสภาและจัดการเลือกตั้งใหม่ภายในปีนี้
 
- ติดตามความขัดแย้งระหว่างเกาหลีเหนือกับสหรัฐฯและเกาหลีใต้ หลังสถานการณ์เริ่มตึงเครียดขึ้น เมื่อเกาหลีเหนือขู่ที่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตีฐานทัพสหรัฐฯและเกาหลีใต้ รวมทั้งขู่ที่จะปิดนิคมอุตสาหกรรมแคซองซึ่งเป็นความร่วมมือของทั้งสองประเทศ โดยล่าสุดญี่ปุ่นและสหรัฐฯได้เตรียมอาวุธที่จะต่อต้านขีปนาวุธดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว
 
- ติดตามสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะในซีเรียและอิรัคที่ยังมีเหตุยิงปะทะและเหตุระเบิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 23 เม.ย. 2556 เวลา : 11:47:48

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:55 am