เวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับลดลง 2.43 ปิดที่ 91.03 เหรียญฯ และเบรนท์ส่งมอบเดือน มิ.ย. ปรับลดลง 2.42 ปิดที่ 99.95 เหรียญฯ
 
- ราคาน้ำมันดิบร่วงกว่า 2 เหรียญฯ หลังตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาแย่ โดยดัชนีภาคการผลิตจีน (Official PMI) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 50.6 ในเดือน เม.ย. จาก 50.9 ในเดือนมี.ค. สวนทางกับความคาดหมาย เนื่องจากตัวเลขภาคการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าเศรษฐกิจจีนจะเติบโตช้าลงกว่าคาดหลังจีดีพีไตรมาส 1/56 เองก็ออกมาแย่
 
- ส่วนตัวเลขภาคการผลิตสหรัฐฯ (ISM) เดือน เม.ย. ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 50.7   ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงมาอยู่ที่ 50.9 จาก 51.3 เมื่อเดือน มี.ค. ทั้งนี้เนื่องจากการขยายตัวของภาคการผลิตเป็นไปอย่างจำกัด
 
- ด้านตัวเลขการจ้างภาคเอกชนสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. ปรับเพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดเพียง 119,000 ตำแหน่ง โดยตลาดยังคงจับตาตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่จะประกาศในวันศุกร์นี้ที่จะสะท้อนให้เห็นภาพตลาดแรงงานสหรัฐฯ ได้ชัดเจนมากขึ้น
 
- นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. 56 ปรับเพิ่มขึ้นถึง 6.7 ล้านบาร์เรล แตะระดับสูงสุดในประวัติกาลและสูงกว่าที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1 ล้านบาร์เรล ทั้งนี้เนื่องจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นถึง 62,000 บาร์เรลต่อวัน แม้โรงกลั่นจะมีอัตราการผลิตที่เพิ่มขึ้น 0.9% มาอยู่ที่ 84.4% แล้วก็ตาม
 
- โอเปกคาดกำลังการผลิตน้ำมันดิบเดือน เม.ย. จะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 30.46 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังผลกระทบของความไม่สงบในอิรักและลิเบีย รวมถึงปัญหาของอิหร่านลดลง ขณะที่การผลิตในแหล่งทะเลเหนือกลับมาอยู่ที่ระดับ เดิมที่ 210,000 ลาร์เรลต่อวันแล้วหลังปิดไปกะทันหันเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
 
+ อย่างไรก็ดี ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่ ได้หนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ประกาศคงมาตรการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลมูลค่า 85 พันล้านเหรียญฯ ต่อเดือน เพื่อเป็นกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป ทั้งยังเสริมว่าอาจมีการอัดฉีดเพิ่มเติมหากมีความจำเป็น
 
+ พร้อมกันนี้ ตลาดยังหวังมากขึ้นว่าธนาคารกลางสหภาพยุโรปจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารลงสู่ระดับต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาที่ 0.5%  โดยหวังว่าช่วยฟื้นเศรษฐกิจในภูมิภาคให้ดีขึ้นได้ หลังอัตราเงินเฟ้อเดือน เม.ย. ร่วงลงมาอยู่ที่1.2% ต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่อัตราการว่างานในยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดของภูมิภาคที่ 12.1%
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันหยุดวันแรงงาน
ราคาน้ำมันมันดีเซล ตลาดสิงคโปร์ปิดเนื่องในวันหยุดวันแรงงาน
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ คาดว่าเบรนท์จะอยู่ที่กรอบ 97 - 105 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่ 87 -95 เหรียญ ติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในการวันนี้ รวมทั้งดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนและเยอรมนี ดุลการค้าและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC)
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ได้แก่
วันพฤหัส:  ดัชนีภาคการผลิตยูโรโซนและเยอรมนี ดุลการค้าและยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตจีน (HSBC)
วันศุกร์: ยอดคำสั่งซื้อของโรงงานและสินค้าคงทน ดัชนีภาคบริการ การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีภาคบริการจีน
 
 - ติดตามการประชุมธนาคารกลางยุโรปในวันที่ 2 พ.ค. ที่หลายฝ่ายคาดว่าธนาคารจะประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หลังประธานธนาคารกลางส่งสัณญาณของความเป็นไปได้ในการปรับลดและหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาชะลอตัวลง
 
- จับตานโยบายการบริหารประเทศของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอิตาลี หลังการบรรลุข้อตกลงเพื่อจัดตั้งรัฐบาลของอิตาลีชุดใหม่หลังการเลือกตั้งที่เสร็จสิ้นไปแล้วกว่า 2 เดือน
 
- ติดตามความคืบหน้าในการโหวตรับเงินช่วยเหลือมูลค่า 1 หมื่นล้านยูโรของไซปรัส หลัง มีกระแสว่าสมาชิกสภาบางส่วนจะโหวตไม่รับรองเงินช่วยเหลือจำนวนดังกล่าวซึ่งจะมาพร้อมกับเงื่อนไขที่เข้มงวดทางการเงินและการคลัง
 
- ความไม่สงบในตะวันออกกลางโดยเฉพาะการปะทะกันของกองกำลังรัฐบาลอิรักกับผู้ประท้วงชาวสุหนี่ รวมถึงเหตุระเบิดสถานฑูตฝรั่งเศสในลิเบีย และความรุนแรงในไนจีเรีย
 
- ติดตามการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ระหว่างอิหร่านกับทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 15 พ.ค. ณ นครเวียนนา ประเทศออสเตรีย