Gold
ราคาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ไม่ได้ประกาศโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่ นอกจากนี้ ข้อมูลภาคการผลิตที่ชะลอตัวลงของจีนและสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 50.7 ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 51.3 ขณะที่สหพันธ์พลาธิการและการจัดซื้อของจีน (CFLP) เผยดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนเม.ย.ลดลงมาอยู่ที่ระดับ 50.6 จากเดือนพ.ค.ที่ระดับ 50.9 นอกจากนี้ นักลงทุนยังผิดหวังที่เฟดไม่ได้ประกาศโครงการซื้อพันธบัตรครั้งใหม่ในการประชุมครั้งล่าสุด โดยเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) ที่ระดับ 0 - 0.25% ในการประชุมระยะเวลา 2 วันซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อวานนี้ (1 พ.ค. ) พร้อมกับย้ำว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไปและจะยังคงเดินหน้าโครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน จนกว่าอัตราว่างงานจะลดลงต่ำกว่าระดับ 6.5% และจนกว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 2.5%
ทาง Ausiris มองแนวโน้มราคาทองคำ มีโอกาสปรับตัวลงได้อีก หากการประชุม ECB ช่วงเย็น(ตามเวลาในประเทศ) มีมติลดอัตราดอกเบี้ย เนื่องจากจะทำให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่า ทั้งนี้จุดสำคัญที่จะพิจารณาตามเทคนิคคือ แนวรับที่ 1438 เพราะหากราคาหลุดแนวรับดังกล่าวได้ ราคาทองคำมีจะโอกาสปรับตัวลงได้อีก สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในวันนี้ เราแนะนำว่าหากราคารีบาวด์ขึ้นควรลงทุนฝั่งซื้อโดยมีจุดตัดขาดทุนที่ 1472-1483 หรือที่ Trend Line ขาลง(เส้นที่แดง)ในกราฟรายชั่วโมง
Gold Futures
สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 1410 – 1484
แนวรับ ($/oz) 1459 1472 1484
แนวต้าน ($/oz) 1440 1428 1410
SET50
ดัชนีSET50 Index ปิดตลาดเมื่อวันอังคารทำจุดสูงสุดใหม่ เช่นเดียวกับดัชนีSET Index ที่ปิดที่ 1,597.86 จุด เพิ่มขึ้น 12.93 จุด หรือ +0.82% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 51,696.62 ล้านบาท ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวกตลอดทั้งวัน ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้านจากปัจจัยเสริมภายในประเทศแข็งแกร่ง บริษัทต่างๆมีการประกาศงบการเงินและตัวเลขทางเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดี ทั้งนี้จากรายงานข่าวว่ายังไม่มีการออกมาตรการดูแลค่าเงินบาทหลังผลการประชุม กนง.นัดพิเศษ อย่างไรก็ตามกนง.กำลังติดตามเรื่องค่าเงินบาทอย่างใกล้ชิด และได้มีการประเมินผลบวกลบอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพบว่าการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่ผ่านมา เกิดจากปัจจัยพื้นฐานของเศรษฐกิจไทย ทำให้นักลงทุนต่างชาติเกิดความเชื่อมั่นและเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทำให้ส่งผลบวกต่อตลาดทุนบ้านเราอย่างต่อเนื่อง
ทาง Ausiris มองดัชนีSET50 Index มีโอกาสที่จะขึ้นต่อไป แต่ที่ตลาดหุ้นฝั่งเอเชียที่เปิดตลาดลดลงเมื่อเช้านี้ เราคาดว่าอาจจะทำให้ดัชนี SET50 Index ปรับตัวย่อลงมาก่อน แต่ก็เป็นผลดีที่จะเข้าซื้อสะสม เนื่องจากเรายังมองว่า SET50 Index ยังมีแนวโน้มที่จะขึ้นต่อไป โดยมีจุดตัดขาดทุนฝั่งซื้อของวันนี้ที่ 1045
SET50 Index Futures
สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 1045-1065
แนวรับ (pt.) 1058 1061 1065
แนวต้าน (pt.) 1053 1048 1045
Brent Crude Oil
ราคาน้ำมันปิดลงเมื่อคืนที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะหดตัวของอุปสงค์พลังงาน หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 26 เม.ย. พุ่งขึ้น 6.7 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 395.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบจะเพิ่มขึ้นเพียง 950,000 บาร์เรล นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลด้านการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐและจีน โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนเม.ย.อยู่ที่ระดับ 50.7 ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 51.3 ทั้งนี้ แม้ว่าดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่าภาคการผลิตยังคงมีการขยายตัว แต่ดัชนี PMI เดือนเม.ย.ที่ชะลอตัวลงจากเดือนมี.ค.สะท้อนให้เห็นว่า ภาคการผลิตของสหรัฐยังคงเปราะบาง
ทาง Ausiris มองว่าการลงทุนในน้ำมันช่วงนี้ควรชลอฝั่งซื้อออกไปก่อน ในทางตรงกันข้ามควรหาจังหวะขายใส่ได้อีกครั้งเมื่อราคาปรับตัวรีบาวด์ และไม่ผ่านแนวต้านที่ 102.5 เนื่องจากเรามองว่าราคาน้ำมันมีโอกาสปรับตัวลงได้อีกหากไม่สามารถยืนได้เหนือแนวรับ 95
Brent Crude Oil
สร้างกรอบการเคลื่อนไหวในระยะสั้นที่ 95-102.5
แนวรับ ($/bbl) 101.5 102.5
แนวต้าน ($/bbl) 97 95
ข่าวเด่น