แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (20 – 24 พ.ค. 56) ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้คาดว่าจะผันผวนในกรอบเดิม เนื่องจากตลาดจะต้องรอความชัดเจนของผลการประชุมสหภาพยุโรป และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ  นอกจากนี้ความไม่สงบในตะวันออกกลางยังคงเป็นปัจจัยที่อาจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น หากเหตุการณ์รุนแรงลุกลามออกไป

ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•    การประชุมสหภาพยุโรปจะนำมาซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ รวมทั้งจะมีการหารือถึงนโยบายด้านภาษี หลังตัวเลขจีดีพีไตรมาส 1/56 ของกลุ่มยูโรโซนออกมาหดตัว 0.2% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะหดตัวที่ 0.1% หรือไม่ ขณะที่ตัวเลขการว่างงานในหลายประเทศก็ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าจะมีการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงจาก 0.75% มาอยู่ที่ 0.5% แล้วก็ตาม
•    รายงานการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางและการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร  หลังการประชุมหลายครั้งที่ผ่านมาได้มีการถกเถียงกันเรื่องระยะเวลาที่เหมาะสมในการยกเลิกนโยบาย QE โดยเบื้องต้นคาดว่านโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเชิงปริมาณจะยังดำเนินอยู่ต่อไปจนถึงสิ้นปีนี้
•    สถานการณ์ความไม่สงบในซีเรียที่ยังมีการปะทะกันระหว่างฝ่ายรัฐบาลกับกลุ่มผู้ต่อต้าน โดยมีความพยายามจากมหาอำนาจหลายประเทศ อาทิ สหรัฐฯ อังกฤษและรัสเซีย ที่กดดันให้ประธานาธิบดีซีเรียลงจากตำแหน่งเพื่อเปิดทางให้เกิดการปฏิรูปขึ้นในประเทศ อีกทั้งเหตุการณ์ความรุนแรงในอิรักที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น สร้างความไม่มั่นใจแก่นักลงทุนในเรื่องความไม่แน่นอนของอุปทานน้ำมันดิบ
•    ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนีภาคการผลิตและบริการของยูโรโซน ดัชนีชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ (ifo) ของเยอรมนี ดัชนีภาคการผลิตจีน ยอดขายบ้านใหม่ ดัชนีภาคการผลิต ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ นอกจากนี้ยังมีการประชุมสหภาพยุโรปและจีดีพีไตรมาส 1/56 ของอังกฤษและเยอรมนี (revised และ final ตามลำดับ)

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (13 –17 พ.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวแตกต่างกัน โดยเวสต์เท็กซัสปรับลดลงเพียงเล็กน้อย 0.02 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 96.02 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 0.73 เหรียญฯ ปิดที่ 104.64 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันดิบดูไบปรับลดลง 0.45 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 100.72 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาถูกกดดันจากปัจจัยพื้นฐานทางด้านอุปทาน โดยรายงานจากสำนักงานพลังงานสากล เดือน พ.ค.ที่คาดว่า อุปทานนอกกลุ่มโอเปกจะปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.1 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 54.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในปีนี้ และจะเพิ่มขึ้น 10% ในปี 2555-2561 มาอยู่ที่ระดับ 59.31 ล้านบาร์เรลต่อวัน โดยอุปทานส่วนเพิ่มมาจาก Tight Oil ของสหรัฐฯ และ Oil Sand จากแคนาดา อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ สิ้นสุด ณ วันที่ 10 พ.ค.56 ปรับลดลงสวนทางกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ว่าจะเพิ่มขึ้น ประกอบกับความล้มเหลวในการเจรจาโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านกับตัวแทนของสหประชาชาติ มีส่วนพยุงราคาน้ำมันดิบไม่ให้ปรับลดลงมากนัก