สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -20.29 จุด หลุด 1600 ผวาเฟดชะลอ QE
หุ้นไทยแกว่งในแดนลบตลอดทั้งวัน กรอบ 1577-98 โดยหลุดระดับ 1600 ทันทีที่เปิดตลาดเช้า และมีแรงขายต่อเนื่องจนถึงภาคบ่าย นลท.ผวาเฟดจะชะลอมาตรการ QE ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ต่างชาติขายสุทธิอีก 3.83 พันลบ. ทั้งเดือน พ.ค. (MTD) มียอดขายสุทธิสะสม 5.49 พันลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : เด้ง คลายวิตกเฟดชะลอQE แต่ไม่น่าผ่าน 1600
หุ้นโลกเมื่อคืน (30 พ.ค.) ดีดกลับ โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรปที่พลิกกลับมาปิดบวกได้ตอนจบ หลังนลท.คลายวิตกกังวลเฟดชะลอ QE เนื่องจากตัวเลขศก.สหรัฐฯ เมื่อคืนอ่อนแอกว่าคาด อาทิ GDP 1Q56 ที่ประกาศครั้งที่ 2 อยู่ที่ 2.4% น้อยกว่าครั้งแรกที่ประกาศ 2.5% และคาดที่ 2.5%, จำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์เพิ่มขึ้น 10K สู่ 354K vs คาดว่าจะลดลงสู่ที่ระดับ 340K ส่วนยอดขายบ้านรอปิดการขาย +0.3% MoM ใน เม.ย. แย่กว่าคาดที่ +1.5% MoM มอง SET ฟื้นตัวตามหุ้นโลก ทดสอบแนวต้าน 1590-1600 แต่ไม่น่าผ่านได้ แนวรับ 1570-75 คาดเย็นนี้ INET และ TVD ติด Cash Balance
กลยุทธ์การลงทุน : นิ่งรอดูอาการ หากเทรดดิ้งสั้น เน้นหุ้นลงหนัก
SET หลุด 1600 ตามคาด และยังไม่น่ากลับไปยืนได้ในเร็วๆ นี้ เรามองตลาดยังมีแนวโน้มแกว่งลงต่อ เพราะฉะนั้นนลท.ที่ทยอยขายลดพอร์ตไปแล้ว แนะนำนิ่งรอดูอาการอีกสักระยะ ประเด็นหุ้นน่าสนใจ (1) หุ้นที่ประกาศเข้าดัชนี MSCI (TRUE, HMPRO, MINT), SET50 (คาด CENTEL, GLOBAL, CK) และ SET100 (คาด VGI, MCOT, MBK, OISHI, UV, WHA, SRICHA, GOLD, UMI, TFD, RS) (2) หุ้นที่ลงหนัก 1 สัปดาห์ ลุ้นรีบาวด์ช่วงสั้น แนะนำ AP, KBANK, TVI (3) หุ้นแนะนำใหม่ (Initiate Coverage) WHA อนึ่ง TMW งบปี 55 ออกมาน่าผิดหวัง โดยมีกำไร 4Q55 เพียง 12 ลบ. ลดลงมาก QoQ ส่งผลให้กำไรทั้งปี 55 อยู่เพียง 523 ลบ. น้อยกว่าที่เราคาดไว้ที่ 550-570 ลบ. อย่างไรก็ดี บริษัทประกาศปันผล 2 บ./หุ้น (XD 11 มิ.ย.) ราคาหุ้นที่ร่วงหนักเมื่อวาน (30 พ.ค.) น่าจะสะท้อนงบไม่ดีไปพอสมควรแล้ว โดยหากไม่รวมเงินชดเชยน้ำท่วม 277 ลบ. EPS จะอยู่ที่ 6.17 บ. คิดเป็นPER 8.4x ดังนั้น เรามองราคาหุ้นน่าจะทยอยปรับตัวดีขึ้นจนถึงวัน XD ไม่ควรทุบราคา รอขายทิ้งช่วงเด้งดีกว่า
หุ้นเด่นรายวัน : KBANK , MINT
KBANK : เรามองราคาหุ้นที่ร่วงลง 11% ในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ตามภาวะตลาดหุ้นไทย และแรงกดดันต่อ NIM จากการปรับลดอัตราดบ.ของ กนง. น่าจะเปิดโอกาสในการเทรดดิ้งสั้น เพราะเป็นการปรับลงที่รวดเร็วเกินไป กำไรปีนี้คาดจะโต 20% ขณะที่ PER และ PBV ปี 56F อยู่ที่ 11.1x และ 2.2x ตามลำดับ มูลค่าเหมาะสม 255 บ. (GGM)
MINT : นอกจาก MINT จะเข้าสู่การคำนวณดัชนี MSCI Global Standard ในวันที่ 31 พ.ค.นี้แล้ว เราปรับ EV/EBITDA ของเราสำหรับธุรกิจโรงแรมของ MINT ขึ้นมาอยู่ที่ 17.5 เท่าจากเดิม 13.3 เท่า จากแนวโน้มการท่องเที่ยวไทยที่สดใส (4M56 จำนวนนักท่องเที่ยวโต 19% YoY) โดยเราปรับประมาณการกำไรปี 56-58F ขึ้น และปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมใหม่ 31 บาท (SOTP)
ปัจจัยติดตาม
31 พ.ค.
TH ตัวเลขเศรษฐกิจไทยในเดือน เม.ย.
JP ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม, อัตราใช้กำลังการผลิต และอัตราการว่างงานของญี่ปุ่นใน เม.ย.
EU ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในเดือน พ.ค. และอัตราการว่างงานของสหภาพยุโรปใน เม.ย.
GE ตัวเลขยอดค้าปลีกของเยอรมันในเดือน เม.ย.
US ตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan Conf.) ของสหรัฐฯ ในเดือน พ.ค. (สุดท้าย)
US รายได้และการใช้จ่ายผู้บริโภคสหรัฐฯ ใน เม.ย. และดัชนีชี้ภาวะธุรกิจเขตชิคาโก ใน พ.ค.
ข่าวเด่น