เวสต์เท็กซัสส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับลดลง 1.64 เหรียญฯ ปิดที่ 91.97 เหรียญฯ และเบรนท์ส่งมอบเดือน ก.ค. ปรับลดลง 1.80 เหรียญฯ ปิดที่ 100.39 เหรียญฯ
- ราคามันดิบร่วงตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่แย่ลง เหตุนักลงทุนกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบโลกจะมากเกินความต้องการใช้ หลังที่ประชุมโอเปกประกาศไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มและจะยังคงโควต้าไว้ที่ระดับ 30 ล้านบาร์เรลต่อวัน ต่อไป ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่รายงานเมื่อวันก่อนหน้ายังปรับเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในประวัติกาลอย่างต่อเนื่อง
- บริษัททรานส์ แคนาดาแจ้งว่าท่อส่งน้ำมันดิบ Keystone ที่สามารถขนส่งน้ำมันดิบปริมาณ 590,000 บาร์เรลต่อวัน จากอัลเบอร์ต้ามายังรัฐอิลลินอยส์และบริเวณคุชชิง รัฐโอกลาโฮมากลับมาเปิดดำเนินการตามปกติอีกครั้ง หลังหยุดไปอย่างกะทันหันเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
- อัตราว่างงานของยูโรโซนเดือน เม.ย. พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติกาล ที่ 12.2% เช่นเดียวกับในฝรั่งเศสที่อัตราการว่างงานแตะระดับสูงสุดเช่นกัน ส่วนอิตาลีอัตราการว่างงานถือว่าสูงสุดในรอบ 36 ปี นอกจากนี้ดัชนีราคาผู้บริโภคยูโรโซนเดือน พ.ค. แม้จะเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.4% แต่ยังถือว่าต่ำกว่าระดับเป้าหมายที่ 2%
- การใช้จ่ายของผู้บริโภคสหรัฐฯ ซึ่งนับเป็น 70% ของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย. ปรับลดลง 0.2% จากราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐฯ ที่ลดลง รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าไม่คงทนที่ตกลงและยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนที่เพิ่มขึ้นเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
+ อย่างไรก็ดี ดัชนีภาคการผลิตรัฐชิคาโกของสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 58.7 จากที่ 49 ในเดือน เม.ย. และความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ เดือน พ.ค. ที่เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 6 ปี ที่ 84.5 หลังตลาดบ้านมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันปรับลดลงไปไม่มากนัก
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ หลังโรงกลั่นในไต้หวันและอินเดียหลายแห่งมีการปิดซ่อมบำรุง ขณะที่การนำเข้าของอินโดนีเซียปรับเพิ่มขึ้น พร้อมกันนี้ราคาถือว่าปรับเพิ่มขึ้นตามตลาดสหรัฐฯ ที่มีสต๊อกน้ำมันเบนซินลดลงเนื่องจากความต้องการใช้ที่เริ่มจะเพิ่มขึ้น
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการซื้อขายในตลาดต่ำ ประกอบกับขาดโอกาสในการส่งน้ำมันไปขายยังฝั่งยุโรป อย่างไรก็ดี ความต้องการนำเข้าน้ำมันดีเซลยังคงมีอยู่สูงจากอินโดนีเซีย ตะวันออกกลางและแอฟริกา
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
กรอบการเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ ไทยออยล์คาดเบรนท์จะอยู่ที่กรอบ 98 - 106 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสที่ 90 -98 เหรียญฯ จับตาการการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 6 มิ.ย. นี้ และติดตามการประกาศตัวเลขดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ยูโรโซน และจีนโดย HSBC ดัชนีภาคบริการโดยทางการจีนในวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันจันทร์: ดัชนีภาคการผลิตสหรัฐฯ ยูโรโซนและจีนโดย HSBC ดัชนีภาคบริการโดยทางการจีน
วันอังคาร: ดุลการค้าสหรัฐฯ อัตราการว่างงานสเปน
วันพุธ: จีดีพีไตรมาส 1 (ครั้งที่ 2) ดัชนีภาคบริการและยอดขายปลีกยูโรโซน ยอดคำสั่งซื้อโรงงาน ดัชนีภาคบริการและการจ้างงานภาคเอกชนสหรัฐฯ ดัชนีภาคบริการอังกฤษและจีนโดย HSBC รายงานภาวะเศรษฐกิจของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Beige Book)
วันพฤหัส: การประชุมธนาคารกลางยุโรปและอังกฤษ ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ยอดคำสั่งซื้อโรงงานเยอรมนี
วันศุกร์: การจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราการว่างงาน การผลิตภาคอุตสาหกรรมเยอรมนี
วันเสาร์: ดุลการค้าจีน
วันอาทิตย์: ดัชนีราคาผู้บริโภค การผลิตภาคอุตสาหกรรมและยอดขายปลีกจีน
- การประชุมธนาคารยุโรปในวันที่ 6 มิ.ย. นี้ จะมีมุมมองต่อทิศทางเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยเฉพาะนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างไร หลังการประชุมในครั้งที่ผ่านมามีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงจาก 0.75% เหลือ 0.5%
- จับตาสถานการณ์ความไม่สงบในซีเรีย หลังล่าสุดรัสเซียได้ออกมาประณามมติของสหภาพยุโรปที่จะไม่ต่ออายุสนธิสัญญาห้ามขนถ่ายอาวุธให้กับกลุ่มกบฏซีเรีย โดยรัสเซียเตรียมส่งขีปนาวุธต้านอากาศยานไปยังซีเรียเพื่อยับยั้งการแทรกแซงของต่างชาติ
- การซ่อมบำรุงของแหล่งน้ำมันดิบในแถบทะเลเหนือที่จะเริ่มขึ้นในเดือน มิ.ย. เป็นเวลากว่า 20 วัน ที่จะทำให้อุปทานน้ำมันดิบบางส่วนหายไป
- จับตาความรุนแรงรายวันในอิรัก ทั้งในเมืองหลวงแบกแดดและเขตปกครองตนเองชาวเคิร์ดทางตอนเหนือที่มีปัญหาข้อพิพาทในการแบ่งผลประโยชน์ด้านน้ำมันกับรัฐบาลอิรัก
- ความขัดแย้งระลอกใหม่ระหว่างซูดานกับซูดานใต้ โดยล่าสุดซูดานขู่ที่จะปิดท่อขนส่งน้ำมันดิบหากซูดานใต้สนับสนุนกลุ่มกบฎในซูดาน
ข่าวเด่น