สรุปภาวะตลาดวันก่อน : SET -19.25 จุด ทำจุดต่ำสุดใหม่รอบ 5 สัปดาห์
หุ้นไทยแกว่งผันผวนมากทั้งแดนบวกและลบ โดยภาคเช้า SET รีบาวด์ตามตลาดหุ้นโลก แต่แรงขายลดความเสี่ยงยังมีสูง กดดันให้ SET ไหลลงภาคบ่าย นลท.ยังไม่แน่ใจว่าเฟดจะชะลอมาตรการ QE หรือไม่ประกอบกับขาดปัจจัยใหม่กระตุ้น ต่างชาติพลิกกลับมาสุทธิ 351 ลบ. ยุติการขายสุทธิ 5 วันติดต่อกัน
ทิศทางตลาดวันนี้ : ลงต่อ นลท.กลัวหุ้นปรับฐานทั่วโลก-ชะลอ QE
หุ้นโลกเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (31 พ.ค.) ร่วงหนัก ท่ามกลางตัวเลขศก.สหรัฐฯ ที่ผสมผสาน แต่นลท.กังวลเกี่ยวกับการปรับฐานของตลาด หลังจากราคาหุ้นทั่วโลกปรับขึ้นมามากในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ขณะที่ FED อาจชะลอ QE ในช่วง 2-3 เดือนข้างหน้า ส่งผลให้มีแรงขายล็อกกำไร เรามองแนวโน้มตลาดหุ้นไทยเดือน มิ.ย. แกว่งลง มองเป้ารับ SET Index 1520-30 น่าจะเอาอยู่ในระยะสั้น ก่อนมีดีดกลับรอบเล็ก วันนี้มีแนวรับ 1540-45 แนวต้าน 1575-80 หุ้น INET และ TPP ติด Cash Balance 3 มิ.ย. - 12 ก.ค.
กลยุทธ์การลงทุน : นิ่งรอดูอาการต่อไปจะปลอดภัยกว่า
SET ยังดึงให้ลงต่ำอีก เรามองมีเป้ารับ SET Index แถว 1520-30 (+/- 10 จุด) เพื่อซื้อเล่นรอบ (ระดับดังกล่าวอิงจาก 1.แนวโน้มการปรับลงของ SET ตามการสิ้นสุด QE1 และ QE2 ในอดีต 2.การปรับฐานลง 2 รอบล่าสุดที่เกิดขึ้นในปีนี้) เราเลือกหุ้นที่คาดว่าจะมีปัจจัยกระตุ้นเฉพาะตัวในเดือน มิ.ย. นี้ โดยประเด็นหุ้นน่าลงทุนหลัก (theme) คือ หุ้นที่คาดว่าจะเข้า SET50 Index และ SET100 Index ส่วนประเด็นหุ้นน่าลงทุนอื่น ๆ จะเป็นหุ้นที่น่าจะมีข่าวดีในระยะสั้น เช่น การได้งานใหม่, การขายสินทรัพย์เข้ากองทุนอสังหาฯ และ/หรือ การจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน เป็นต้น หุ้นที่เราแนะนำสำหรับเดือน มิ.ย. คือ BEAUTY, BGH, BTS, CENTEL, CK, KCE, PYLON, SPCG, SRICHA และ WHA
หุ้นเด่นรายวัน : BGH , WHA
BGH : เราคาดว่ากำไรปกติจะเพิ่มขึ้น 20.5%, 19% และ 21% ตามลำดับในปี 56-58F จากจำนวนผู้ป่วยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 7-9% ต่อปี , จำนวนผู้ป่วยที่ดูแลเป็นพิเศษ (intensive patient) และอัตราค่าบริการขยายตัว 7%, การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของการท่องเที่ยวคู่กับการบริการทางการแพทย์ (medical tourism) และอัตราภาษีนิติบุคคลที่ลดลงจาก 23% เป็น 20% และยังมีปัจจัยหนุนจาก 3 โครงการใหม่ในต่างจังหวัด (เชียงใหม่ ภูเก็ต และระยอง) และการขยายการรองรับสำหรับโรงพยาบาลเดิม ทำให้จำนวนเตียงรวมจะเพิ่มมาเป็น 5.45 พันเตียงในปี 57F บริษัทตั้งเป้า 7.450 เตียงในปี 58 จากการทำ M&A ถือเป็น upside ต่อประมาณการของเรา มูลค่าเหมาะสม 220 บ. (SOTP)
WHA : เป็นหุ้นวิเคราะห์ใหม่ของเรา (Initiate Coverage) ปีนี้ บริษัทจะขายโกดังเข้ากองทุนอสังหาฯ มากกว่า 6 พันลบ. ส่งผลให้กำไรปี 56F จะโตก้าวกระโดดเป็นราว 970 ลบ. จาก 213 ลบ.ในปี 55 และจะโตต่อเนื่องอีกปีละ 20-25% ในปี 57-58F (CAGR 3 ปี (56-58F) เฉลี่ยโต 63% ต่อปี) ผลสืบเนื่องจากและขยายตัวของธุรกิจค้าปลีกในปท., การเข้าสู่ประชาคมอาเซียน และกลยุทธ์การขายสินทรัพย์เพื่อขยายธุรกิจ เพิ่งเข้ารับเลือกในดัชนี MSCI Small Cap. เริ่ม 31 พ.ค. มูลค่าเหมาะสม 70 บ. (SOTP)
ปัจจัยติดตาม
3 มิ.ย.
TH ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของไทยในเดือน พ.ค.
EU ตัวเลข PMI ภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปใน พ.ค. (สุดท้าย)
US ISM Manufacturing ของสหรัฐฯ ใน พ.ค. และการใช้จ่ายด้านการก่อสร้างใน เม.ย.
4 มิ.ย.
US ตัวเลขดุลการค้าของสหรัฐฯ ในเดือน เม.ย.
ข่าวเด่น