สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 10 มิถุนายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,376.88–1,387.65 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,200 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 400 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,600 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 700 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.18 น.ของวันที่ 10/06/13)
แนวโน้มวันที่ 11 มิถุนายน 2556
กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรปรับตัวเพิ่มขึ้น 175,000 ตำแหน่งในเดือนพฤษภาคมหลังจากเพิ่มขึ้น 149,000 ในเดือนเมษายน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ถูกปรับทบทวนลงจาก 165,000 ตำแหน่งในรายงานก่อนหน้านี้ ส่วนอัตราว่างงานขยับขึ้นแตะ 7.6% ในเดือนพฤษภาคม จาก 7.5% ในเดือนก่อนหน้าก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าการจ้างงานเดือนพฤษภาคมจะเพิ่มขึ้น 167,000-170,000 ตำแหน่งโดยประมาณ หลังจากตลาดรับทราบข้อมูลดังกล่าวราคาทองคำร่วงลงโดยการอ่อนตัวลงภายใน 1 วันมากที่สุดในรอบกว่า 3 สัปดาห์ ขณะที่กองทุนเทขายทองออกคำมาหลังจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐพุ่งขึ้น เนื่องจากเปิดเผยข้อมูลของตลาดแรงงงานการจ้างงานทำให้นักลงทุนช้อนซื้อดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มแรงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำ ประกอบกับสำนักงานสถิติแห่งชาติของอิตาลี (Istat) รายงานว่า การผลิตภาคอุตสาหกรรมในเดือนเมษายนลดลง 0.3% จากเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันยังคงเพิ่มแรงกดดันต่อทิศทางราคาทองคำ
เบื้องต้นวายแอลจีประเมินว่าหากราคาทองคำสามารถปรับตัวขึ้นเหนือโซน 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งต้องรอดูการเคลื่อนไหวของราคาทองคำว่าจะสามารถยืนในบริเวณ 1,392 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งหรือไม่ หากสามารถยืนได้ประเมินว่าราคาทองคำจะขยับขึ้นชนแนวต้านในโซน 1,403 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในขณะที่หากราคาทองคำไม่สามารถยืน 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้อย่างแข็งแกร่งนักลงทุนต้องระมัดระวังการอ่อนตัวของราคาทองคำ อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของราคาทองคำต้องให้ความสำคัญไปที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐด้วย โดยนักลงทุนควรติดตามอย่างใกล้ชิดเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี แนะนำรอจังหวะเข้าซื้อโดยสำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้มากอาจเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาบริเวณ 1,365 ดอลลาร์ต่อออนซ์ สำหรับผู้ที่รับความเสี่ยงได้น้อยแนะนำให้รอดูบริเวณโซนแนวรับสำคัญ 1,355 หรือ 1,338 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และรอขายทำกำไรบางส่วนบริเวณแนวต้านแรกที่ 1,392 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ส่วนที่เหลือให้รอไปปิดสถานะทำกำไรบริเวณแนวต้านถัดไปที่ 1,403 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ เพื่อลดความเสี่ยงพอร์ตการลงทุน ซึ่งหากนักลงทุนไม่มีวินัยในการลงทุนที่จะตัดขาดทุน จะทำให้เกิดความเสียหายที่ไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,365 (19,860บาท) 1,355 (19,710บาท) 1,338 (19,460บาท)
แนวต้าน 1,392 (20,250บาท) 1,403 (20,410บาท) 1,413 (20,560บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ 1,365 (20,010บาท) 1,355 (19,870บาท) 1,338 (19,620บาท)
แนวต้าน 1,392 (20,410บาท) 1,403 (20,570บาท) 1,413 (20,710บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
แนวรับ 21.15 (688บาท) 20.75 (675บาท) 21.40 (695บาท)
แนวต้าน 23.15 (749บาท) 23.50 (760บาท) 23.80 (769บาท)
ข่าวเด่น