สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 11 มิถุนายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,371.73–1,387.31 ดอลลาร์ต่อออนซ์
ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 20,250 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 20 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 20,230 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 700 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น.ของวันที่ 11/06/13)
แนวโน้มวันที่ 12 มิถุนายน 2556
สำนักงานศุลกากรของจีนเปิดเผยว่ามูลค่าการค้าระหว่างประเทศโดยรวมของจีนในเดือนพฤษภาคมขยายตัวเพียง 0.4% เมื่อเทียบรายปี ซึ่งลดลงอย่างมากจากที่ขยายตัว 15.7% ในเดือนเมษายนการส่งออกของจีนเพิ่มขึ้นเพียง 1% ในเดือนพฤษภาคม ทั้งนี้ตัวเลขการส่งออกของจีนที่ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 10 เดือน ได้สร้างมุมมองเชิงลบต่อทิศทางราคาทองคำ ในขณะเดียวกัน สกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจาก สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ส (S&P) ปรับเพิ่มแนวโน้มความน่าเชื่อถือของสหรัฐสู่ระดับมีเสถียรภาพจากแนวโน้มในเชิงลบโดยยังคงคงอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐไว้ที่ระดับ AA+ ทั้งนี้ S&P โดยอ้างถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจและค่าเงินดอลลาร์ โดยเป็นการปรับอันดับความน่าเชื่อถือของสหรัฐขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 2 ปี อย่างไรก็ ราคาได้รับปัจจัยบวกเข้ามาพยุงราคาทองคำไว้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษ โดย บีโอเจยังได้ยกระดับการประเมินเศรษฐกิจภายในประเทศ โดยระบุว่า เศรษฐกิจกำลังปรับตัวดีขึ้น พร้อมกับยืนยันว่า บีโอเจจะเพิ่มฐานเงินที่อัตรา 60-70 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจซึ่งนักลงทุนในตลาดทองคำยังคงจับตาสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ
ทั้งนี้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ซึ่งทำให้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำจะสามารถอ่อนตัวลงได้อีก นอกจากนี้วายแอลจียังคงแนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,355 หรือ 1,346 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,388 หรือ 1,395 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ 1,355 (19,820บาท) 1,346 (19,690บาท) 1,335 (19,530บาท)
แนวต้าน 1,388 (20,310บาท) 1,395 (20,410บาท) 1,410 (20,630บาท)
GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ 1,355 (19,970บาท) 1,346 (19,840บาท) 1,335 (19,680บาท)
แนวต้าน 1,388 (20,460บาท) 1,395 (20,560บาท) 1,410 (20,780บาท)
SILVER FUTURES (SVM13)
แนวรับ 21.05 (679บาท) 20.70 (668บาท) 20.40 (659บาท)
แนวต้าน 22.20 (715บาท) 22.45 (722บาท) 22.90 (736บาท)
ข่าวเด่น