สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 21 มิถุนายน 2556

ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,302.30–1,270.08 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 19,150 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,140 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 630 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 70 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 700 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.24 น.ของวันที่ 21/06/13)

แนวโน้มวันที่ 24 มิถุนายน 2556    
           
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งแกร่งขึ้นต่อเนื่องหลังจากประธานธนาคารกลาง สหรัฐ (เฟด) ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่าเฟดจะเริ่มชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในปลายปีนี้ หากเศรษฐกิจฟื้นตัวตามที่คาดการณ์ไว้ และ เฟดก็จะสิ้นสุดโครงการซื้อพันธบัตรประมาณกลางปีหน้า ทั้งนี้ นายเบอร์นันเก้ ยืนยันว่า เศรษฐกิจสหรัฐแข็งแกร่งพอที่จะเริ่มปรับลดโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่งผลให้ดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่ ซึ่งเพิ่มแรงกดดันในตลาดทองคำ เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ส่งผลให้ความน่าลงทุนในตลาดทองคำลดลง เพราะทำให้ราคาทองคำที่ซื้อขายกันในสกุลเงินดอลลาร์มีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ที่ถือครองสกุลเงินอื่นๆ โดยปัจจัยดังกล่าวทำให้ราคาทองคำเคลื่อนไหวปรับตัวลดลงผกผันกับสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยราคาทองคำดิ่งลงอย่างต่อเนื่องหลังจากลงไปแตะจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี

นอกจากนี้ ทางกองทุนทองคำ SPDR  ที่มีขนาดใหญ่ที่สุด ยังคงมีการขายทองคำออกมาอย่างต่อเนื่องด้วย โดยมีถือครองทองคำในระดับต่ำสุดในรอบ 4 ปี โดยถือครองทองคำต่ำกว่าระดับต่ำ 1,000 ตัน  ตัวเลขดังกล่าวได้สะท้อนมุมมองที่เป็นลบในตลาดทองคำมากยิ่งขึ้นประกอบกับนักลงทุนยังคงกังวลว่าราคาทองคำไม่ได้ปรับตัวขึ้นตามคุณสมบัติสินทรัพย์ปลอดภัยเหมือนเคย อย่างไรก็ตามวายแอลจีอยากแนะนำว่า ควรติดตามประเด็นการเคลื่อนย้ายเงิน ว่าจะไปหาสินทรัพย์ปลอดภัยแหล่งใด เพราะในช่วงที่ผ่านมา นักลงทุนต่างขายทองคำออกมาโดยมีสาเหตุมาจากการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำ ทั้งนี้นักลงทุนเลือกที่จะถือเงินสดเพื่อรอดูสถานการณ์ ทำให้เชื่อได้ว่าหากไม่มีปัจจัยหนุนราคาทองคำอย่างแข็งแกร่ง การขยับขึ้นของราคาทองคำคงเป็นไปอย่างเชื่องช้า
       
กลยุทธ์การลงทุน  วายแอลจี มีมุมมองว่าราคาทองคำมีลักษณะการดีดตัวของราคาทองคำในลักษณะ Technical Rebound หลังจากราคาทองคำมีการปรับตัวลดลง โดยประเมินโซนแนวต้านที่ 1,305-1,310  ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่หากราคาอ่อนตัวลงหลุดแนวรับ 1,270  ดอลลาร์ต่อออนซ์น่าจะเห็นการปรับตัวลงต่อโดนประเมินแนวรับถัดไปที่ 1,260  หรือ 1,250  ดอลลาร์ต่อออนซ์  ในระยะสั้นนี้ต้องยอมรับว่าทองคำมีความผันผวนอย่างมาก และนักลงทุนควรเพิ่มความระมัดระวังในการลงทุนมากขึ้น ซึ่งหากหลุดบริเวณดังกล่าวจำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้แบ่งทองคำออกขายทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,310 หรือ 1,323 ดอลลาร์ต่อออนซ์
       
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,270 (18,640บาท)        1,260 (18,500บาท)      1,250 (18,350บาท) 
แนวต้าน    1,310 (19,230บาท)        1,323 (19,430บาท)      1,330 (19,530บาท)    

GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ      1,270 (18,800บาท)        1,260 (18,650บาท)      1,250 (18,500บาท) 
แนวต้าน    1,310 (19,390บาท)        1,323 (19,580บาท)      1,330 (19,680บาท)    

SILVER FUTURES (SVM13)
         แนวรับ          19.35 (620บาท)        19.05 (608บาท)             18.80 (601บาท)
         แนวต้าน        20.20 (644บาท)        20.80 (663บาท)              21.15 (673บาท)