สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 24 มิถุนายน 2556ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,278.83–1,301.01 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFM13 อยู่ที่ 19,020 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 140 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,160 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVM13 อยู่ที่ 632 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 632 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.54 น.ของวันที่ 24/06/13)
แนวโน้มวันที่ 25 มิถุนายน 2556   
           
อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนกำลังชะลอตัวลง การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจในปี 2556 ในช่วงที่ผ่านมาต่างก็เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ขณะที่ธนาคารกลางจีน แถลงการณ์ยืนยันเดินหน้าใช้นโยบายการเงินแบบรัดกุม ซึ่งสอดคล้องกับสภาแห่งรัฐบาลจีนได้ให้แถลงการณ์เมื่อวันพุธที่ผ่านมาโดยเน้นนโยบายการเงินแบบรัดกุมและการป้องกันความเสี่ยง ซึ่งท่าทีดังกล่าวได้ทำลายความหวังของนักลงทุนที่ทางการจีนจะออกมาตรากระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม

ทั้งนี้ธนาคารกลางจีนยังเปิดเผยรายงานการสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจของประชาชน ซึ่งบ่งชี้ว่า ผู้บริหารธนาคาร และผู้ประกอบการ และผู้ฝากเงินรู้สึกกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจจีนและมีความเชื่อมั่นลดลง อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจมหภาคชะลอตัวลงได้สร้างแรงกดดันเพิ่มขึ้นให้กับตลาดทองคำ ทั้งนี้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งแตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลัก ยังเป็นอีกปัจจัยที่ยังคงกดดันราคาทองคำ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นพุ่งขึ้น เนื่องจากผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐขยับขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 22 เดือน ซึ่งทำให้ดอลลาร์มีความน่าสนใจมากขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี พุ่งแตะระดับ สูงสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2011 และพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องหลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้วางแนวทางสำหรับการปรับลดมาตรการกระตุ้น สกุลเงินดอลลาร์จะแข็งค่าซึ่งส่งผลลบต่อทิศทางราคาทองคำ

ทั้งนี้นักลงทุนต่างมีความกังวลกับประเด็นดังกล่าว ทำให้เมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา ซึ่งทำให้วายแอลจีประเมินว่าราคาทองคำจะสามารถอ่อนตัวลงได้อีก นอกจากนี้วายแอลจียังคงแนะนำนักลงทุนว่าการรอจังหวะซื้อเมื่อว่าราคาทองคำจะไหลลงสู่แนวรับสำคัญน่าจะเป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ นักลงทุนควรปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับสภาวะตลาดปัจจุบัน
      
กลยุทธ์การลงทุน  วายแอลจีมีมุมมองว่าสำหรับนักลงทุนที่รอจังหวะเข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงมาและไม่หลุดแนวรับ 1,270 หรือ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวบริเวณแนวต้าน 1,308 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดแนวรับ 1,260 ดอลลาร์ต่อออนซ์ เพื่อรอซื้อในบริเวณ 1,250 ดอลลาร์ต่อออนซ์แต่หากหลุดบริเวณนี้จำเป็นต้องตัดขาดทุน สำหรับนักลงทุนที่มีทองคำในมือ แนะนำให้ปิดสถานะทำกำไรหากราคาดีดตัวขึ้นหรือบริเวณแนวต้าน 1,308 หรือ 1,320 ดอลลาร์ต่อออนซ์
       
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,270 (18,660บาท)        1,260 (18,510บาท)      1,250 (18,360บาท) 
แนวต้าน    1,308 (19,220บาท)        1,320 (19,390บาท)      1,335 (19,620บาท)    

GOLD FUTURES (GFM13)
แนวรับ      1,270 (18,810บาท)        1,260 (18,660บาท)      1,250 (18,510บาท) 
แนวต้าน    1,308 (19,370บาท)        1,320 (19,550บาท)      1,335 (19,770บาท)    

SILVER FUTURES (SVM13)
         แนวรับ          19.45 (625บาท)        19.10 (615บาท)             18.80 (605บาท)
         แนวต้าน        20.15 (647บาท)        20.50 (658บาท)             20.85 (669บาท)