ตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นยุโรป ปิดทำการดีดตัวขึ้นเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน โดยดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดเมื่อคืนวันที่ 27 มิ.ย.พุ่งขึ้น 114.35 จุด หรือ 0.77% ปิดที่ 15,024.49 จุด ดัชนี S&P 500 บวก 9.94 จุด หรือ 0.62% ปิดที่ 1,613.20 จุด ดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 25.64 จุด หรือ 0.76% ปิดที่ 3,401.86 จุด
ขณะที่ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ ดัชนี Stoxx 600 เพิ่มขึ้น 0.7% ปิดที่ 286.42 จุด ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,243.40 จุด เพิ่มขึ้น 77.92 จุด หรือ +1.26% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 7,990.75 จุด เพิ่มขึ้น 49.76 จุด หรือ +0.63% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 3,762.19 จุด เพิ่มขึ้น 36.15 จุด หรือ +0.97%
โดยตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 เนื่องจากได้แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ หลังจากที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 22 มิ.ย. ลดลง 9,000 ราย มาอยู่ที่ 346,000 ราย หลังจากที่เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้า
ด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. 0.3% หลังจากที่ร่วงลง 0.3% ในเดือนเม.ย. เพราะประชาชนมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งรายได้ส่วนบุคคลปรับตัวขึ้น 0.5% ในเดือนพ.ค. หลังจากที่ขยับขึ้น 0.1% ในเดือนเม.ย. ส่งสัญญาณว่าเศรษฐกิจสหรัฐในไตรมาสนี้จะขยายตัวขึ้น เพราะการใช้จ่ายผู้บริโภคคิดเป็นสัดส่วนถึง 70% หรือสองในสามของระบบเศรษฐกิจสหรัฐ
นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนหลังจากนายวิลเลียม ดัดลีย์ ประธานเฟดสาขานิวยอร์ก กล่าวว่า การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอาจจะต้องใช้เวลาอีกนาน และเฟดสามารถรอคอยเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้แม้ว่าอัตราว่างงานลดลงมาอยู่ที่ระดับ 6.5% ก็ตาม
ขณะที่นายนายเจโรม โพเวลล์ เจ้าหน้าที่เฟดอีกคนหนึ่งกล่าวว่า ตลาดมีปฏิกริยามากเกินไปต่อการที่เฟดส่งสัญญาณว่าจะปรับลดขนาดมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)
ข่าวเด่น