สรุปสภาวะตลาดทองคำแท่ง และโกลด์ฟิวเจอร์ส วันที่ 28 มิถุนายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,181.48–1,211.26 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFQ13 อยู่ที่ 17,840 บาท โดยราคาปรับตัวลดลง 500 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 18,340 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVQ13 อยู่ที่ 640 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 640 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 16.38 น.ของวันที่ 28/06/13)
แนวโน้มวันที่ 2 กรกฎาคม 2556   
         
 ขณะที่นักลงทุนยังคงเทขายทองคำออกมาออกมาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นายเบน เบอร์นันเก้  ประธานเฟดได้วางแนวทางในการปรับลดโครงการซื้อสินทรัพย์ลง  ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้นักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยและมีมุมมองเชิงบวกต่อสกุลเงินดอลลาร์ และ ตลาดหุ้นสหรัฐมากขึ้นโดยดัชนีดาวโจนส์ปิดเหนือระดับ 15,000 ได้อีกครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 19 มิถุนายน และบวกขึ้นติดต่อกัน 3 วันมากกว่า 100 จุดเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่วันที่ 4-6 ตุลาคม 2011 ทั้งนี้ทิศทางที่สดใสของตลาดหุ้นสหรัฐ ได้ดึงดูดเม็ดเงินลงทุนให้ไหลออกจากตลาดทองคำ ขณะที่สถาบันการเงินต่างได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำ และ โลหะมีค่าในช่วงสิ้นปี 2013 และ 2014 ลงจากการคาดการณ์ถึงแนวโน้มราคาทองคำที่อ่อนตัวลงและแรงเทขายของนักลงทุนและลดการถือครองโลหะมีค่าลง อันเนื่องมาจากการที่ราคามีแนวโน้มการปรับตัวขึ้นค่อนข้างจำกัด ส่งผลให้สัญญาทองคำดิ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบ 34 เดือน ทั้งนี้ "เอบีเอ็น แอมโร ได้ปรับลดคาดการณ์ราคาทองคำสิ้นปีลงสู่ 1,100 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จาก 1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และปรับลดราคาทองสิ้นปี 2014 ลงสู่ระดับ 900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จาก 1,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ การปรับตัวดีขึ้นของข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นแรงกดดันสำหรับราคาทองคำ

วายแอลจี ยังเน้นกลยุทธ์การลงทุนในระยะสั้นและทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาทองคำ ซึ่งบริเวณ 1,220 หรือ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นแนวต้านหากราคาทองคำสามารถยืนเหนือโซนดังกล่าวได้มีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทดสอบแนวต้านด้านบน แต่หากไม่สามารถยืนได้ราคาก็มีโอกาสอ่อนตัวลงทดสอบแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์
      
กลยุทธ์การลงทุน  วายแอลจีแนะนำนักลงทุนสามารถลงทุนระยะสั้นโดยเข้าซื้อหากราคาย่อตัวไม่หลุดแนวรับบริเวณ 1,180 หรือ 1,155 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยไม่แนะนำให้เข้าซื้อทั้งหมดบริเวณแนวรับใดแนวรับหนึ่ง ควรเหลือเงินทุนเพื่อซื้อเฉลี่ยหากราคาหลุดแนวรับแรกซึ่งราคาจะปรับตัวลงไปบริเวณแนวรับถัดไป และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นบริเวณแนวต้าน 1,220 หรือ 1,245 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้อาจเห็นการย่อตัวของราคาทองคำอีกครั้ง เบื้องต้นวายแอลจียังมองว่าการลงทุนยังเน้นการลงทุนระยะสั้น เพราะแม้ว่าราคาทองคำจะดีดตัวขึ้นได้บ้าง ก็ยังคงมีแรงขายทองคำออกมาเช่นกัน พร้อมวางแผนการลงทุนโดยกำหนดจุดตัดขาดทุนและทำกำไรให้ชัดเจน
           
ทองคำแท่ง (96.50%)
แนวรับ      1,180 (17,230บาท)       1,155 (16,920บาท)      1,135 (16,620บาท) 
แนวต้าน    1,220 (17,880บาท)       1,245 (18,250บาท)      1,260 (18,470บาท)    

GOLD FUTURES (GFQ13)
แนวรับ      1,180 (17,530บาท)       1,155 (17,160บาท)      1,135 (16,870บาท) 
แนวต้าน    1,220 (18,120บาท)       1,245 (18,490บาท)      1,260 (18,710บาท)    

SILVER FUTURES (SVQ13)
         แนวรับ          18.05 (618บาท)        17.70 (607บาท)             17.40 (598บาท)
         แนวต้าน        19.30 (657บาท)        19.65 (668บาท)             20.05 (680บาท)