บทวิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดย บมจ. ไทยออยล์: ฉบับวันที่ 15 กรกฎาคม 2556 “ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 103-109 เหรียญฯ”

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมัน (15 - 19 ก.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังคงผันผวนในกรอบที่สูงขึ้น จากเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองในอียิปต์ที่คาดว่าจะยังคงมีอยู่ต่อไป รวมถึงนโยบายทางการเงินของสหรัฐฯ และการประชุมกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ หรือ จี20 ว่าจะมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร และราคาน้ำมันอาจได้รับแรงกดดันจากความต้องการใช้น้ำมันของจีน หากจีดีพีไตรมาส 2/56 ของจีน ประกาศออกมาต่ำกว่าความคาดหมาย ซึ่งอาจส่งผลให้นักลงทุนเทขายเพื่อทำกำไรในระยะสั้น

ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•    ความตึงเครียดทางการเมืองในอียิปต์หลังประธานาธิบดีชั่วคราว นาย อัดลี มันซูร์ ขอเวลา 6 เดือน ที่จะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ หลังกองทัพอียิปต์ยกเลิกรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน รวมทั้งออกกฤษฎีกากำหนดกรอบเวลาจัดการเลือกตั้ง เพื่อส่งให้ประชาชนลงประชามติภายใน 4 เดือน จากนั้นจะเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรภายในต้นปีหน้าแล้วตามด้วยการเลือกตั้งประธานาธิบดี

•    ติดตามการแถลงนโยบายการเงินรอบครึ่งปีที่ผ่านมาจากธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อคณะกรรมาธิการภาคการเงินของสภาคองเกรซ ซึ่งอาจกล่าวถึงแนวโน้มการชะลอแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ว่าจะเป็นไปตามที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเริ่มการชะลอตัวในเดือน ก.ย.หรือไม่ รวมทั้งรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ หรือ Beige Book ในวันที่ 17 ก.ค. นี้

•    การประชุมของรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี20 ช่วง 19-20 ก.ค.นี้ที่ประเทศรัสเซีย ซึ่งจะหารือถึงนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหากสหรัฐฯ ตัดสินใจลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจริง รวมถึงแนวทางความร่วมมือเพื่อรองรับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
•    ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับตัวลดลง หลังสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบปรับลดลงราว 20 ล้านบาร์เรล ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา รวมทั้งอุปสงค์น้ำมันเบนซินของสหรัฐฯ ที่ขยายตัวร้อยละ 2.5 ตามฤดูกาลท่องเที่ยวที่กระตุ้นอุปสงค์ในประเทศ
•    จับตาตัวเลขจีดีพี ไตรมาส2/56 ของจีนที่จะประกาศในวันที่ 15 ก.ค. โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะขยายตัวเพียง 7.5% จากไตรมาสก่อนหน้าที่ 7.7% หลังตัวเลขเศรษฐกิจของจีนที่ประกาศล่าสุดออกมาต่ำกว่าคาด โดยล่าสุดรายงานการนำเข้า-ส่งออก เดือน มิ.ย.ปรับตัวลดลง 3.1% ซึ่งจะส่งผลกดดันความต้องการใช้น้ำมันของจีนและทำให้อุปสงค์น้ำมันโลกชะลอตัวลง อย่างไรก็ดี หากจีดีพีของจีน ประกาศออกมาต่ำกว่าความคาดหมาย อาจส่งผลให้มีการเทขายเพื่อทำกำไรในระยะสั้นได้
•    ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ จีดีพี ไตรมาส2/56 ของจีน การสำรวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของเยอรมนี จากสถาบัน ZEW ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (8 – 12 ก.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.73 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 105.95 เหรียญฯ และเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 1.09 เหรียญฯ ปิดที่ 108.81 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 1.7 เหรียญฯ มาอยู่ที่ประมาณ 103 เหรียญฯ

ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งสัปดาห์ เนื่องจากตลาดกังวลต่อสถานการณ์ทางการเมืองในอียิปต์ ที่อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งน้ำมัน โดยอียิปต์เป็นจุดยุทธศาสตร์การขนส่งน้ำมันผ่านคลองซุเอส และอาจลุกลามทำให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในแถบตะวันออกกลางและทำให้อุปทานน้ำมันดิบหายไปจากตลาดได้ นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ลดลงเกือบ 10 ล้านบาร์เรล รวมถึงสัญญาณที่ดีจากทางธนาคารกลางสหรัฐฯที่คาดว่าจะยังคงดำเนินมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน หรือ QE ต่อไป จนกว่าจะเห็นสัญญาณที่ชัดเจนของการฟื้นตัวของสภาวะเศรษฐกิจ