จีที เวลธ์ สรุปภาวะ Precious Metals Futures ภาคเช้า วันนี้ (16 กรกฎาคม 2556) ราคาทองคำในตลาดโลกปรับลดลง US$2.70 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับUS$1,281.99 ต่อออนซ์(Gold spot)
ราคาทองคำปรับลดลงเล็กน้อยวานนี้หลังตัวเลขการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนหรือ GDP ในไตรมาส 2 ออกมาน่าผิดหวัง โดยเติบโตเพียง 7.5% และจีนไม่ได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม แต่ราคาทองคำกลับได้รับแรงหนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯที่ค่อนข้างไร้ทิศทาง โดยตัวเลขยอดค้าปลีกลดลงขณะที่ดัชนีภาคการผลิตของนิวยอร์คเพิ่มขึ้น ตลาดมุ่งความสนใจไปที่คำแถลงของนาย เบน เบอร์นันเก้ต่อรัฐสภาถึงนโยบายทางการเงินและตัวเลขเศรษฐกิจในรอบครึ่งปีที่ผ่านมาในวันพุธและพฤหัสฯ เพื่อหาทิศทางของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในอนาคต ทั้งนี้การดำเนินต่อของมาตรการ QE จะเป็นแรงหนุนต่อ Fund Flow ให้ไหลเข้าภูมิภาคเอเชียสะท้อนการปรับแข็งค่าของสกุลเงินในภูมภาค โดยค่าเงินบาทเทียบดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย 31.1 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 939.07 ตัน
ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวใกล้ระดับ US$1,280 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 18,970 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอซื้อ 18,800 บาท ราคาเสนอขาย 18,900 บาท ลดลง 50 บาท
แนวโน้ทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ราคาทองคำได้รับแรงกดดันจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของจีน ซึ่งกระทบต่อราคา base metal (โลหะพื้นฐาน) โดยราคา base metal ในตลาด LME ปรับตัวลดลงเมื่อวาน ขณะที่ปัจจัยเรื่องการคงมาตรการ QE ยังคงหนุนตลาด และรอคอยการแถลงของประธาน FED ในช่วงวันพุธ – พฤหัสบดีต่อวุติสภา ทางเทคนิคแนวต้านสำคัญยังอยู่ที่ระดับ 1,300 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ เป็นราคาในประเทศประมาณ 19,200 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ (เงินบาท 31.05 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ) และแนวรับ 1,265 ดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์ หรือประมาณ 18,700 บาทต่อหนึ่งบาททองคำ (เงินบาท 31.05 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐฯ)
ข่าวเด่น