นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) กล่าวถึง แนวโน้มเศรษฐกิจไทยว่า น่าจะฟื้นตัวมาสู่การเติบโตในระดับปกติในช่วงไตรมาส 3/56 และไตรมาส 4/56 หลังจากที่ชะลอการเติบโตลงไปในช่วงไตรมาส 2/56
ซึ่งธปท.จะประกาศตัวเลขในช่วงบ่ายวันนี้ (19 ก.ค.) คาดว่าเฉลี่ยปีจะอยู่ในช่วงที่ ธปท.ประมาณการ แม้ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 จะชะลอลง จึงยังไม่จำเป็นต้องออกมาตรการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้น
การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง มาจากสาเหตุสำคัญ คือ ระดับการจ้างงานยังดี รายได้ของประชาชนยังดีไม่มีปัญหา การส่งออกมีสัญญาณดีขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและญี่ปุ่น ส่วนการลงทุนภาคเอกชน ขณะนี้ยังมีความจำเป็นต้องปรับปรุงกำลังการผลิตและขยายการลงทุนในระยะต่อไป จากที่ชะลอลงในช่วงไตรมาส 1/56 ตามการส่งออกที่ชะลอลงก่อนหน้านี้ ดังนั้น หากการส่งออกฟื้นก็น่าจะกลับมามีการลงทุนได้อีก
ส่วนความเสี่ยงของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง ยังคงมีความน่าเป็นห่วงเรื่องความผันผวนของตลาดเงินโลก ที่มีความอ่อนไหวต่อข้อมูลข่าวสารในระยะสั้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ ดังนั้นผู้ที่เกี่ยวของต้องระมัดระวังด้วยการป้องกันความเสี่ยงไว้
ในส่วนของนโยบายการเงินขณะนี้อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับผ่อนคลายเอื้อต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ สินเชื่อยังขยายตัวสูง แม้ล่าสุดจะเริ่มชะลอลงบ้าง ด้านนโยบายการคลัง งบประมาณปี 56-57 ยังจัดทำงบประมาณขาดดุล ประกอบกับภาครัฐจะมีการลงทุนโครงการบริหารจัดการน้ำ และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน แม้จะมีความล่าช้า แต่ก็ถือว่าจะมีการลงทุนขนาดใหญ่จากภาครัฐ จึงคิดว่าจะเป็นแรงส่งให้เศรษฐกิจไตรมาส 3-4 อาจฟื้นสู่ระดับปกติได้
อย่างไรก็ตาม มีปัจจัยในประเทศที่ต้องติดตาม คือ หนี้ภาคครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง กระทบต่อการใช้จ่ายของประชาชนให้ตึงตัวขึ้นบ้าง โดยเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งสถาบันการเงินยังคงดูแลและให้ความสำคัญด้วยการติดตามอย่างใกล้ชิด ขณะที่ ธปท.จะดูแลหนี้ภาคครัวเรือน เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับความสามารถในการใช้จ่ายของภาคประชาชน
ข่าวเด่น