ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาดแนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ ผ้นผวนในกรอบเดิม


บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดยคาดว่าราคาน้ำมันผันผวนในกรอบเดิม จับตาดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ จีนและยุโรป ทั้งนี้ ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 104-110 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 103-109 เหรียญฯ
 
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ (22 - 26 ก.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะยังคงผันผวนในกรอบเดิม สาเหตุจากตลาดมีความกังวลต่อตัวเลขภาคการผลิตของสหรัฐฯ จีนและยุโรปที่คาดว่าจะออกมาไม่ดีนัก ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลง รวมถึงเหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่อาจส่งผลต่อการส่งออกน้ำมันดิบจากภูมิภาคดังกล่าว
 
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•ตัวเลขดัชนีชี้วัดภาคการผลิตสหรัฐฯ (Flash PMI) ยูโรโซน (Markit Mfg flash PMI) และจีน (HSBC flash PMI) ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ โดยตลาดกังวลว่าภาคการผลิตจีนและยุโรปอาจยังคงอยู่ในภาวะหดตัวต่อเนื่อง ซึ่งจะกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน
 
•ความไม่แน่นอนทางการเมืองในอียิปต์ แม้ประธานาธิบดีชั่วคราวกำลังเร่งจัดตั้งคณะรัฐมนตรีตามแผนการบริหารประเทศให้แล้วเสร็จ เพื่อเตรียมการเลือกตั้งในอีก 6 เดือนข้างหน้า อย่างไรก็ตาม ยังคงมีกลุ่มผู้สนับสนุนอดีตประธานาธิบดีมอร์ซีปักหลักชุมนุมอยู่ ท่ามกลางคำเตือนของกองทัพว่าจะเข้าปราบปรามอย่างเด็ดขาด หากการประท้วงบานปลายเข้าสู่ความรุนแรง          
 
•ตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่คาดว่าจะปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นหลายแห่งในสหรัฐฯ กลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง แม้กระนั้นตลาดยังคงเฝ้าจับตาปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังสหรัฐฯ ในสัปดาห์ล่าสุดที่ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด ทั้งๆ ที่เป็นช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวหน้าร้อน ซึ่งจะส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบและน้ำมันเบนซินล่วงหน้าสหรัฐฯ
 
•เหตุการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ การบุกยึดท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบในลิเบีย เหตุการณ์ระเบิดรถยนต์ในเลบานอน และการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวชาวซีเรียที่ให้การสนับสนุนอดีตประธานาธิบดีอัล อัสซาด เป็นต้น อาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและการส่งออกน้ำมันดิบของภูมิภาคได้
 
•ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน และความรู้สึกของผู้บริโภคต่อภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐฯ รวมถึงความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจยูโรโซน และดัชนีภาคการผลิตเยอรมนี
 
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา (15 - 19 ก.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับเพิ่มขึ้น 2.10 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล มาปิดที่ 108.05 เหรียญฯ และดูไบปรับเพิ่มขึ้น 1.96 เหรียญฯ มาอยู่ที่ประมาณ 105.30 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ปรับลดลง 0.74 เหรียญฯ ปิดที่ 108.07 เหรียญฯ
 
ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับสูงขึ้นหลังตัวเลขความต้องการใช้น้ำมันเดือน มิ.ย. ของจีนดีดตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือน ไปแตะระดับ 9.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน รวมถึงคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันในปีนี้ว่าจะขยายตัวที่ 5% นอกจากนี้ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับลดลงมากกว่าคาด และผลสำรวจภาคอุตสาหกรรม ยอดขอสร้างบ้านใหม่ที่ปรับตัวดีขึ้น  ตลอดจนความไม่สงบในอียิปต์และลิเบียเป็นปัจจัยสนับสนุนราคา อย่างไรก็ตาม มีการเทขายทำกำไรทางเทคนิคในช่วงกลางสัปดาห์ หลังราคาน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่แสดงให้เห็นถึงการเก็งกำไรที่มากเกินไป ประกอบกับตัวเลขจีดีพีจีนไตรมาส 2/56 ออกมาค่อนข้างแย่ที่ 7.5% รวมถึงถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่กล่าวถึงความเป็นไปได้ของการชะลอ QE ภายในปีนี้หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปรับตัวดีขึ้นเกินคาด มีส่วนกดดันราคาบ้าง


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 24 ก.ค. 2556 เวลา : 12:18:03

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:14 pm