เช้าวันนี้ (30 กรกฎาคม 2556) สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า จากข่าวที่มีการเผยแพร่ออกไปทางสื่อออนไลน์และสื่อสิ่งพิมพ์บางฉบับ เมื่อวันที่ 29 -30 กรกฎาคม 2556 กรณี คราบน้ำมันรั่วไหลในทะเล ข่าวดังกล่าวมีการอ้างถึงการให้ข้อมูลช่วงหนึ่งของ ดร. อานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ : "ข้อมูลจากดาวเทียมและข้อมูลกระแสน้ำจากสถานีเรดาร์ตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำ ชี้ให้เห็นว่าคราบน้ำมันที่ผ่านการย่อยสลายมาแล้วระดับหนึ่ง มีการแพร่กระจายเป็นวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ โดยทิศทางของคราบน้ำมันจะเริ่มเข้าสู่ชายฝั่ง ตามแนวหาดแม่รำพึง เขาแหลมหญ้า เกาะเสม็ดด้านทิศตะวันตก บางส่วนอาจเข้าไปถึงอ่าวศรีราชา* จากระยะทางความกว้างประมาณ 2 กิโลเมตร เพิ่มขึ้นราว 3-4 กิโลเมตร ขณะที่ความยาวอยู่ที่ 8 กิโลเมตร อีกทั้ง การติดตามสถานการณ์คราบน้ำมันต้องใช้ดาวเทียมระบบเรดาร์ที่มีความจำเพาะ แต่เนื่องจากไม่มีดาวเทียมเป็นของตัวเอง จึงไม่สามารถสั่งถ่ายได้ทุกวัน อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่มีอยู่ เมื่อนำมาประกอบกับข้อมูลจากสถานีเรดาร์ชายฝั่ง จะช่วยให้การติดตามสถานการณ์ทำได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพมากขึ้น" ดร.อานนท์ กล่าว ซึ่งข้อมูลที่อ้างว่า “บางส่วนอาจเข้าไปถึงอ่าวศรีราชา” เป็นข้อมูลที่คาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ซึ่งในในความเป็นจริงการแพร่กระจายของคราบน้ำมันอยู่ในขอบเขตจังหวัดระยอง โดยเฉพาะอ่าวแม่รำพึง – อำเภอแกลงเท่านั้น สำหรับสถานการณ์ล่าสุด ในช่วงเช้าวันนี้ ฟิล์มน้ำมันเหล่านี้อาจจะเริ่มเข้าสู่ชายฝั่งในเขตอำเภอแกลง ประชาชน ผู้ประกอบการ ตลอดจนสถานเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในบริเวณดังกล่าวจึงควรเตรียมการรับมือโดยงดเล่นน้ำทะเล งดการใช้น้ำทะเลเพื่อการเพาะเลี้ยงและขนย้ายสิ่งของที่อาจได้รับความเสียหายจากคราบน้ำมัน รวมทั้งให้ความร่วมมือแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการป้องกันและขจัดคราบน้ำมัน สำหรับพื้นที่ที่คราบน้ำมันยังมีความหนาแน่นจะเป็นหย่อมๆ ในอ่าวที่มีลักษณะปิดทางฝั่งตะวันตกของเกาะเสม็ด โดยเฉพาะอ่าวพร้าว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการขจัดอยู่อย่างรีบด่วน อนึ่งการใช้ดาวเทียมระบบเรดาร์ตรวจวัดคราบน้ำมันนั้นเป็นการวัดความราบเรียบของผิวหน้าทะเลอันเนื่องมาจากแรงตึงผิวที่ลดลงของน้ำทะเลเนื่องมาจากฟิล์มน้ำมัน ดังนั้นแม้จะเป็นเพียงฟิล์มบางๆ ดาวเทียมก็สามารถตรวจวัดได้ ซึ่งฟิล์มน้ำมันบางๆ นั้นถึงแม้อาจจะไม่ทำให้เกิดอันตรายโดยเฉียบพลันเหมือคราบน้ำมันที่มีความหนามากๆ แต่ในระยะยาวอาจจะมีผลต่อระบบนิเวศน์ รวมทั้งจะเกิดการสะสมและแปรสภาพเป็นก้อนน้ำมันดิน (Tar Ball) บนหาดในระยะยาวต่อไป ด้าน นายไพรัตน์ อรุณเวสสะเศรษฐ นายกเทศมนตรีตำบลบ้านเพ ระบุว่า ขณะนี้คราบน้ำมันกระจายถึงหาดบ้านเพแล้ว จากที่สังเกตพบว่า คราบน้ำมันติดโขดหินและทราย ห่างจากฝั่งประมาณ 100 เมตร แต่จำนวนยังไม่มากนัก ยังไม่มีผลกระทบต่อชาวประมงในระยะนี้ ส่วนระยะยาว เชื่อว่า ชาวประมงจะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม เป็นห่วงถึงผลกระทบที่มีต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว ว่า เสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้
ข่าวเด่น