สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายงานสถานการณ์การแพร่กระจายของคราบน้ำมันในทะเลบริเวณเกาะเสม็ด จังหวัดระยอง เมื่อเวลา 05.33น. ของวันที่ 2 สิงหาคม 2556 จากภาพถ่ายดาวเทียมและสถานีเรดาร์เพื่อการตรวจวัดคลื่นและกระแสน้ำชายฝั่ง พบว่า สถานการณ์เกือบเข้าสู่ภาวะปกติ ไม่พบคราบน้ำมันหนาแน่น หรือกลุ่มฟิล์มน้ำมัน ทั้งนี้ GISTDA ให้ข้อมูลว่า คราบน้ำมันที่เป็นฟิล์ม อาจจะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างเฉียบพลัน แต่สารเคมีบางชนิด เช่น สารอินทรีย์ในกลุ่มอะโรมาติคและโลหะบางชนิดที่มีในน้ำมันดิบอาจจะสะสมในสิ่งมีชีวิตและถ่ายทอดตามห่วงโซ่อาหารในทะเลสู่ผู้บริโภคขั้นสูงได้ รวมทั้งองค์ประกอบที่สลายตัวได้ยากจะรวมตัวและสะสมเป็นก้อนน้ำมันดิน (Tar Ball) ตามชายหาดต่างๆ ในระยะยาว ด้าน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการขจัดคราบน้ำมันรั่วบริเวณอ่าวพร้าว เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่า บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัทในกลุ่ม ปตท.และ ทุกฝ่ายช่วยกันเร่งเก็บกู้คราบน้ำมันให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ขณะนี้สถานการณ์เริ่มดีขึ้นมากแล้ว จึงมีการระดมกำลังจากทุกภาคส่วนมาช่วยกัน เช่น กองทัพเรือ อาสาสมัคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข เจ้าหน้าที่ของ PTTGC ภาคเอกชน ประชาชนทั่วไป ทั้งนี้ ในการชดเชยผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อทรัพยากรธรรมชาติ ชายหาด การประกอบอาชีพ และภาคการท่องเที่ยว PTTGC พร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว เพราะเป็นผู้ก่อมลพิษทางทะเลในครั้งนี้ ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บกู้ เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติให้กลับคืนสู่สภาพเดิม เชื่อว่า จะเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยในเรื่องนี้มาก พร้อมสั่งการมาโดยตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติราชการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ ให้ระดมกำลังช่วยกันฟื้นฟูสภาพพื้นที่ในการขจัดคราบน้ำมันให้หมด เพราะมีผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทย
ข่าวเด่น