วันนี้(13ส.ค.56) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. ในความผิดฐานหมิ่นประมาท
จากกรณีเมื่อวันที่ 13 ม.ค.2552 จำเลยได้แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า นายอภิสิทธิ์ นั่งเทียบเสมอพระเจ้าแผ่นดินในการเข้าเฝ้าฯ ถวายรายงาน
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้ว เห็นว่าจำเลยแม้จะเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แต่ไม่เคยเข้าเฝ้าฯ จึงไม่ทราบมาก่อนว่า มีกรณีที่ผู้เข้าเฝ้าฯสามารถนั่งบนเก้าอี้ได้ ดังนั้น จึงเชื่อได้ว่าจำเลยวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของโจทก์ตามที่สื่อนำเสนอภาพข่าวเท่านั้น ไม่ได้มีเจตนาใส่ร้ายหรือใส่ความโจทก์ ศาลอุทธรณ์จึงพิพากษากลับศาลชั้นต้นให้ยกฟ้อง
ก่อนหน้านี้ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาจำคุกจำเลยเป็นเวลา 6 เดือน ปรับ 50,000 บาท แต่เนื่องจากจำเลย ยังไม่เคยมีความผิดในลักษณะนี้ จึงให้รอลงอาญา 2 ปี และให้นำคำพิพากษาฉบับย่อไปเผยแพร่ในหนังสือพิมพ์ผู้จัดการรายวันและมติชนเป็นเวลา 7 วันติดต่อกัน โดยให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ในส่วนของคดีของนายสุเทพ เทือกสุบรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคประชาธิปัตย์ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ในความผิดฐานหมิ่นประมาท จากกรณีที่นายจตุพร กล่าวหานายสุเทพ ว่าจ้างวานบุคคลต่างด้าวให้เข้าร่วมชุมนุมกับกลุ่มนปช. และให้ป่วนการชุมนุม
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่าจำเลยแสดงความคิดเห็นโดยสุจริต เนื่องจากมีพยานหลักฐานปากคำของตำรวจว่าได้จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ทำลายพระบรมฉายาลักษณ์ได้ ประกอบกับในขณะนั้นนายสุเทพ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ด้านความมั่นคง
ข่าวเด่น