|
|
|
|
|
|
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.72 เหรียญฯ ปิดที่ 106.83 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.85 เหรียญฯ ปิดที่ 109.82 เหรียญฯ
+ โรงกลั่นน้ำมันประจำชาติลิเบีย (NOC) เปิดเผยว่าจากเหตุประท้วงของคนงาน ทำให้โรงกลั่นไม่สามารถยืนยันการส่งมอบน้ำมันในเดือน ก.ย. เนื่องจากท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบยังถูกปิดอยู่ ทั้งนี้นักวิเคราะห์คาดว่าปริมาณการส่งออกน้ำมันจะตกลงมาอยู่ที่ประมาณ 0.3 ล้านบาร์เรล์ ต่ำกว่าตัวเลขการส่งออกในเดือน มิ.ย. ที่อยู่ที่ 1.3 ล้านบาร์เรล์
+นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า การปิดซ่อมบำรุงของท่าเรือส่งออกน้ำมันในอิรักจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบหายไปตลาดประมาณ 0. 5 ล้านบาร์เรล์ต่อวันในเดือน ก.ย.
+ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานยอดค้าปลีกประจำเดือน ก.ค. 56 เพิ่มขึ้น 0.2% จากเดือน มิ.ย. มาอยู่ที่ 424.5 ล้านล้านดอร์ลาร์ ปรับเพิ่มขึ้น 6%จากปี 2555 ในขณะที่ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจยุโรป ZEW ในเมือง Mannheim นำเสนอดัชนีการคาดการณ์ของนักลงทุนและนักวิเคราะห์ปรับตัวสู่ระดับ 42 ในเดือน ส.ค. จากที่คาดการณ์ไว้ 39.9 ส่งสัญญานถึงการเติบโตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป
+ นอกจากนี้นักลงทุนมีความกังวลจากพายุโซนร้อนที่ก่อตัวในแถบทะเลคาริเบียนที่มีโอกาสที่จะทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุเฮอริเคน และอาจส่งผลต่อการผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติของสหรัฐฯ ได้ หากพายุดังกล่าวเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวแมกซิโก
- อย่างไรก็ดีราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดัน จากคำแถลงของ นายเดนนิส ล็อกฮารต์ ประธานธนาคารกลาง (เฟด) ประจำสาขาแอตแลนตา ที่กล่าวว่า เฟดมีแนวโน้มจะเริ่มต้นชะลอมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในเดือนกันยายนนี้ อย่างไรก็ตามจำเป็นคอยสัญญาณที่ชัดเจนของภาพเศรษฐกิจ
- สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าการคาดการณ์ว่าจะลดลงที่ 1.5 ล้านบาร์เรล แม้ว่าน้ำมันดิบคงคลังที่คุชชิ่ง โอคลาโฮมา ซึ่งเป็นจุดส่งมอบน้ำมันดิบ WTI ปรับลดลง 1.4 ล้านบาร์เรลเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นตามน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตามความต้องการภายในภูมิภาคเริ่มชะลอตัวลงจากอินโดนิเซียหลังสิ้นสุดเทศกาลรอมฏอน และราคาน้ำมันเบนซินที่สหรัฐฯ ปรับตัวลดลง
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ โดยถูกกดดันจากปริมาณส่งออกจำนวนมากจากอินเดียในขณะที่อุปสงค์ในภูมิภาคคงที่
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวในกรอบเดิม โดยเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 104 - 110 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 103-109 เหรียญฯ คืนนี้ติดตามยอดค้าปลีก ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออกของสหรัฐฯ และการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ดัชนีราคาผู้ผลิตสหรัฐฯ และจีดีพีไตรมาส 5/56 ของยูโรโซน (Flash GDP)
วันพฤหัส: ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของรัฐนิวยอร์คและของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย รวมถึง ดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีราคาตลาดบ้าน การผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ
วันศุกร์: ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ ความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ความไม่สงบในอียิปต์ที่คาดว่าจะเพิ่มมากขึ้น หลังความพยายามในการเจรจาของนานาชาติเพื่อหาข้อยุติความขัดแย้งในอีบิปต์ล้มเหลว อาจส่งผลต่อความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตะวันออกกลาง
- จับตาปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ หลังปริมาณน้ำมันดิบปรับลดลงมากในช่วง 4-5 สัปดาห์ที่ผ่านมา โดยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับลดลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน มี.ค. 55 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
- ความคืบหน้าของการขอเจารจาระหว่างประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านและสหรัฐฯ ในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ ลดมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน
- ซูดานตัดสินใจเลื่อนเส้นตายการปิดท่อขนส่งน้ำมันที่จะขนส่งน้ำมันของซูดานใต้ไปอีก 2 สัปดาห์ เป็นวันที่ 22 ส.ค. นี้ เพื่อให้สหภาพแอฟริกาเข้าตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าซูดานใต้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในซูดาน
- การผลิตน้ำมันดิบของอิรักในช่วงต้นเดือน ส.ค. ที่ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.25 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังความรุนแรงในประเทศลดลงอาจส่งผลกดดันราคาน้ำมัน อย่างไรก็ตาม การปิดซ่อมบำรุงท่าส่งน้ำมันในเดือน ก.ย. คาดว่าจะทำให้การส่งออกหายไป 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
14 ส.ค. 2556 เวลา : 11:29:33
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น