จีที เวลธ์ สรุปภาวะ Gold Futures ภาคเช้าวันนี้ (14 สิงหาคม 2556) ราคาทองคำในตลาดโลกปิดลบ US$15.10 ต่อออนซ์ ปิดที่ระดับUS$1,320.69 ต่อออนซ์(Gold spot)
 
ราคาทองปรับตัวลงหลังการรายงานของกระทรวงพาณิชย์สะท้อนว่าการใช้จ่ายภาคครัวเรือนสหรัฐฯในเดือนก.ค.ฟื้นตัวด้วยอัตราพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 7 เดือน จากยอดค้าปลีกพื้นฐานที่เพิ่มขึ้น 0.5% ส่งผลให้ตลาดคาดการณ์ว่า FED อาจจะเริ่มชะลอ QE ภายในเดือนก.ย.นี้ สะท้อนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐนอายุ 10 ปีที่พุ่งสูงขึ้นเหนือระดับ 2.7% ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์เทียบตะกร้าสกุลเงินหลักแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 81.75 จุด อีกทั้งวานนี้นายเดนนิส ล็อคฮาร์ต ประธาน FED สาขาแอตแลนต้ายังได้กล่าวแสดงความเห็นถึงการเริ่มชะลอ QE ภายในเดือนหน้านี้แม้ว่าอัตราเงินเฟ้อจะต่ำกว่าเป้าหมายก็ตามทางด้านอินเดียซึ่งเป็นผู้บริโภคทองคำอันดับหนึ่งของโลกยังคงโดนกดดันการนำเข้าทองจากมาตรการเก็บภาษีนำเข้าทองคำที่สูงถึง 10% กองทุน SPDR รายงานการถือครองทองคำคงที่ระดับ 911.13 ตัน
 
ราคาทองคำโลกเช้านี้ (Gold Spot) เคลื่อนไหวเหนือระดับ US$1,320 โกลด์ฟิวเจอร์สัญญาสิ้นสุดอายุเดือนสิงหาคม 2556 (GFQ13) ราคาเปิดเช้านี้ที่ 19,680 บาท ส่วนราคาทองคำที่ประกาศโดยสมาคมค้าทองคำวันนี้ ราคาเสนอขาย19,650บาท ลดลง100บาท
 
แนวโน้มทองคำ นายกมลธัญ พรไพศาลวิจิต ผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัท จีที เวลธ์ แมเนจเมนท์ จำกัดและผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ กล่าวว่า ปัจจัยพื้นฐานในระยะกลางยังมองเชิงลบการปรับชะลอ QE ลงในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคำ ขณะเดียวกันตัวเลขเศรษฐกิจที่ปรับตัวดีขึ้นไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯหรือยุโรปก็ตามยิ่งเป็นแรงกดดันราคาสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างทองคำ ด้านอุปสงค์เชื่อยังคงมีต่อเนื่องจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่แม้อินเดียจะมีการเพิ่มภาษีการนำเข้า ทางเทคนิคราคายังมีโอกาสฟื้นตัวหลังจากผ่านแนวต้านสำคัญ US$1,325 แต่อาจจะมีการอ่อนตัวลงระยะสั้นเพื่อย้ำเส้น Trend เดิมก่อนฟื้นตัว แต่แนวโน้มหลักยังเป็นขาลง