เวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.ย. เพิ่มขึ้น 0.48 เหรียญฯ ปิดที่ 107.33 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ก.ย. (สิ้นสุดสัญญา) เพิ่มขึ้น 0.91 เหรียญฯ ปิดที่ 111.11 เหรียญฯ โดยเบรท์ส่งมอบ ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.78เหรียญฯ ปิดที่ 109.60 เหรียญฯ + ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ทำราคาสูงสุดในรอบ 4 เดือน เนื่องจากความกังวลเรื่องความไม่สงบในอียิปต์ ซึ่งอาจลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ ในตะวันออกกลาง หรือ ส่งผลกระทบต่อการลำเลียงน้ำมันผ่านคลองสุเอซ และท่อส่งน้ำมัน SUMED ซึ่งเป็นแหล่งขนถ่ายน้ำมันสำคัญจากทะเลแดงไปสู่ทะเลเมดิเตอร์เรเนียนชะงักงันได้ โดยล่าสุด เมื่อวานนี้กลุ่มภราดรภาพมุสลิม ซึ่งเป็นกลุ่มสนับสนุนประธานาธิบดีมอร์ซี ได้บุกเข้าและวางเพลิงที่ทำการของภาครัฐในเมืองไคโร โดยกระทรวงสาธารณสุขของอียิปต์รายงานว่ามียอดผู้เสียชีวิตถึง 623 ราย และบาดเจ็บหลายพันคน + การประท้วงในลิเบียยังคงยือเยื้อทำให้ท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบ Es Sider ซึ่งใหญ่สุดในลิเบีย ไม่สามารถดำเนินการได้ ส่งผลให้ปริมาณการส่งออกลดลงเหลือเพียง 6 แสนบาร์เรลต่อวัน ซึ่งน้อยกว่าการส่งออกในสมัยของกัดดาฟีที่ระดับสูงสุดที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน + นอกจากนี้ความไม่แน่นอนเรื่องปริมาณการส่งออกน้ำมันดิบของอิรักในเดือน ก.ย. ยังคงสร้างความกังวลต่อตลาด หลังภาครัฐอิรักยังไม่ได้ตัดสินใจแผนการซ่อมบำรุงท่าส่งออกน้ำมันดิบ Basra ว่าจะดำเนินการในเดือน ก.ย. หรือไม่ -/+ ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานรายสัปดาห์ปรับลดลงถึง 15,000 ราย มาอยู่ที่ 320,000 ราย ซึ่งตัวเลขออกออกมาดีนี้ ทำให้คาดว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจหยุดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในเร็วๆ นี้ ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังที่สิงคโปร์ปรับเพิ่มขึ้น 15% มาแตะที่ระดับสูงสุดในรอบ 10 สัปดาห์ ประกอบกับอุปสงค์ที่ลดลงจากอินโดนีเซียหลังหมดช่วงรอมฎอน ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีการส่งออกจากน้ำมันดีเซลจากอินเดีย หลังความต้องการใช้ในภาคการเกษตรและขนส่งปรับลดลงในช่วงฤดูมรสุม อย่างไรก็ดีปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังที่สิงคโปร์ปรับลดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 5 ปี ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์หน้าเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 104-110 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106 - 112 เหรียญฯ (สำหรับสัญญาเดือน ต.ค.) คืนนี้ติดตามยอดการขอสร้างบ้านใหม่ ความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันศุกร์: ยอดการขอสร้างบ้านใหม่ ความรู้สึกผู้บริโภคต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และอัตราเงินเฟ้อยูโรโซน ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์หน้า ได้แก่ วันจันทร์: - วันอังคาร: - วันพุธ: ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันพฤหัส: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิต (Flash PMI) และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของจีน (HSBC Flash PMI) และยูโรโซน (Markit Mfg flash PMI) รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน วันศุกร์: ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ปัจจัยที่น่าจับตามอง - ความไม่สงบในอียิปต์ทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน สร้างความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตะวันออกกลาง - ลิเบียจะกลับมาส่งออกน้ำมันดิบจากท่า Ras Lanuf ได้อีกครั้งเมื่อไหร่ หลังล่าสุดการประท้วงของคนงานบริษัทน้ำมันที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลาเกือบ 1 เดือนทำให้ต้องปิดท่าเรือและทำให้การส่งออกน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน - ความคืบหน้าของการขอเจรจาระหว่างประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านและสหรัฐฯ ในประเด็นโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งจะส่งผลให้สหรัฐฯ ลดมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน - ซูดานตัดสินใจเลื่อนเส้นตายการปิดท่อขนส่งน้ำมันที่จะขนส่งน้ำมันของซูดานใต้ไปเป็นวันที่ 6 ก.ย. นี้ เพื่อให้สหภาพแอฟริกาเข้าตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าซูดานใต้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในซูดาน - การปิดซ่อมบำรุงท่าเรือส่งออกน้ำมันของอิรักในเดือน ก.ย. คาดว่าจะทำให้การส่งออกหายไป 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน
ข่าวเด่น