ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน "WTI ลดหลังการขายในวันปิดสัญญา และท่อส่งSeaway ชะงัก ส่วน Brent เพิ่มตามความกังวลใน ME"



น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ก.ย. ปรับลดลง 2.14 เหรียญฯ ปิดที่ 104.96 เหรียญฯ  ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. เพิ่มขึ้น 0.25 เหรียญฯ ปิดที่ 110.15 เหรียญฯ (น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 1.75 เหรียญฯ ปิดที่ 105.11 เหรียญฯ)
 
- ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลงหลัง นักลงทุนเทขายน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ก.ย. ที่สัญญาหมดอายุในวันที่ 20 ส.ค. รวมทั้งเหตุปัญหาท่อส่ง Seaway ปิดดำเนินการลง ทำให้ไม่สามารถส่งน้ำมันดิบ WTI จากเมืองคุชชิ่ง รัฐโอกลาโฮมา ไปยังโรงกลั่นในอ่าวเม็กซิโกได้
 
+/- ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังความวุ่นวายในตะวันออกกลางยังสร้างความกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบ แต่ราคาถูกกดดันผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีรายงานออกมาในวันนี้ ซึ่งจะทำให้นักลงทุนคาดเดาได้ว่าเฟดจะลดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) ลงในการประชุมครั้งหน้าหรือไม่ 
 
+ ความไม่สงบในลิเบียยังยืดเยื้อ หลังกลุ่มผู้ประท้วงของคนงานยังปิดท่าเรือ Es Sider ซึ่งเป็นท่าส่งออกขนาดใหญ่สุดในลิเบีย รวมทั้งปิดท่าเรืออื่นๆ ล่าสุดการปะทะกันที่ท่าเรือดังกล่าวมีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บด้วยเช่นกัน
 
+ สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐฯ (API) รายงาน ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ ณ วันที่ 16 ส.ค. 56 ปรับลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ว่าจะลดลงที่ 1.4 ล้านบาร์เรล ส่วนปริมาณน้ำมันเบนซินคงคลังลดลง 3.7 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดการณ์ว่าลดลงที่ 1.5 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณน้ำมันดีเซลคงคลังปรับเพิ่ม 1.8 ล้านบาร์เรล มากกว่าคาดที่ 0.9 ล้านบาร์เรล
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานยังคงล้นตลาด และความต้องการค่อนข้างเงียบเหงาเนื่องจากหมดฤดูกาลท่องเที่ยวของสหรัฐฯ และความต้องการที่ลดลงจากอินโดนีเซีย
 
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับตัวลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปสงค์ปรับตัวลดลงหลังฤดูร้อน และหลังจากเทศกาลถือศีลอด ประกอบกับน้ำมันดีเซลคงคลังที่อินโดนีเซียอยู่ระดับสูงจากปริมาณความต้องการใช้น้อยกว่าคาดในช่วงรอมฎอน
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 104-110 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106 - 112 เหรียญฯ ติดตามรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ และปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ในวันนี้ รวมทั้งตัวเลขดัชนีภาคการผลิตของทั้งสหรัฐฯ ยุโรป และจีนที่จะประกาศในวันพฤหัสนี้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันจันทร์: -
วันอังคาร: -
วันพุธ: ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ และรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ
วันพฤหัส: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิต (Flash PMI) และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของจีน (HSBC Flash PMI) และยูโรโซน (Markit Mfg flash PMI) รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน
วันศุกร์: ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-  ความไม่สงบในอียิปต์ทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน สร้างความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตะวันออกกลาง
-  การประท้วงปิดท่าเรือของคนงานบริษัทน้ำมันในลิเบียที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานทำให้การส่งออกน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน
- ความคืบหน้าของการขอเจรจาระหว่างประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านและสหรัฐฯ ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐฯ ยอมลดมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน
-  ซูดานตัดสินใจเลื่อนเส้นตายการปิดท่อขนส่งน้ำมันที่จะขนส่งน้ำมันของซูดานใต้ไปเป็นวันที่ 6 ก.ย. นี้ เพื่อให้สหภาพแอฟริกาเข้าตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าซูดานใต้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในซูดาน


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 21 ส.ค. 2556 เวลา : 13:17:34

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 2:40 am