ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์วิเคราะห์น้ำมันดิบลดหลังข่าวท่าเรือลิเบียกลับมาดำเนินการอีกครั้ง


น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 1.26 เหรียญฯ ปิดที่ 103.85 เหรียญฯ  ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. ลดลง 0.34 เหรียญฯ ปิดที่ 109.81 เหรียญฯ
 
- ตลาดคลายความกังวลหลังจากมีรายงานว่าท่าเรือส่งน้ำมันดิบ Marsa al Brega และ Marsa al Hariga ในลิเบียจะกลับมาดำเนินการส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้ หลังหยุดไปก่อนหน้านี้จากเหตุประท้วง
 
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงหลังจากท่อส่งน้ำมันดิบ Hawthorn ซึ่งส่งน้ำมันดิบ WTI จากท่อส่งโอกลาโฮมาไปยังคุชชิ่ง กำลังเตรียมพร้อมที่เปิดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ปิดมาตั้งแต่เดือน ส.ค. ปีที่ผ่านมา โดยมีกำลังการส่งอยู่ที่ 90,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้อุปทานน้ำมันดิบที่คุชชิ่งมีแนวโน้มปรับสูงขึ้นในอนาคต
 
+ อย่างไรก็ดีท่อส่งน้ำมันดิบ seaway ซึ่งส่งน้ำมันดิบ WTI จากเมืองคุชชิ่ง ไปอ่าวเม็กซิโก ก็ได้กลับมาเปิดดำเนินการอีกครั้ง หลังเมื่อวานนี้มีการประกาศหยุดดำเนินการ โดยท่อดังกล่าวมีกำลังการส่งอยู่ที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน
 
-/+ ในรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดที่เปิดเผยวานนี้ พบว่ายังไม่มีความชัดเจนว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะชะลอมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจ QE ลงในการประชุมครั้งถัดไปหรือไม่
 
+ ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐในเดือน ก.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 6.5% มาอยู่ที่ระดับ 5.36 ล้านยูนิต โดยมากกว่าการคาดการณ์ไว้ที่ 5.15 ล้านยูนิต และขึ้นไปแตะระดับสูงสุดในรอบ 6 ปีตั้งแต่ปี 2009 ที่ผ่านมา
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการจากอินโดนีเซียลดลง ขณะที่อุปทานยังคงสูงอยู่เพราะโรงกลั่นต่างๆ กลับมาดำเนินการเป็นปกติ
 
ราคาน้ำมันมันดีเซล ปรับตัวลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการจากอิโดนีเซียลดลงหลังจากเทศกาลถือศีลอด รวมถึงความต้องการที่ลดลงจากประเทศซาอุดิอาระเบีย หลังจากหมดฤดูร้อนที่มีการใช้น้ำมันดีเซลในโรงไฟฟ้า
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบที่สูงขึ้นเล็กน้อย โดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 104-110 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106 - 112 เหรียญฯ ติดตามรายงานดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของสหรัฐฯ จีน และยุโรป รวมทั้งยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซนในวันนี้
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ดัชนีชี้วัดภาคการผลิต (Flash PMI) และยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานสหรัฐฯ ดัชนีชี้วัดภาคการผลิตของจีน (HSBC Flash PMI) และยูโรโซน (Markit Mfg flash PMI) รวมถึงความเชื่อมั่นผู้บริโภคยูโรโซน
วันศุกร์: ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-  ความไม่สงบในอียิปต์ทวีความรุนแรงขึ้น หลังรัฐบาลประกาศภาวะฉุกเฉินเป็นเวลา 1 เดือน สร้างความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตะวันออกกลาง
-  การประท้วงปิดท่าเรือของคนงานบริษัทน้ำมันในลิเบียที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานานทำให้การส่งออกน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ระดับ 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน
- ความคืบหน้าของการขอเจรจาระหว่างประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่านและสหรัฐฯ ในเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งอาจจะส่งผลให้สหรัฐฯ ยอมลดมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของอิหร่าน
-  ซูดานตัดสินใจเลื่อนเส้นตายการปิดท่อขนส่งน้ำมันที่จะขนส่งน้ำมันของซูดานใต้ไปเป็นวันที่ 6 ก.ย. นี้ เพื่อให้สหภาพแอฟริกาเข้าตรวจสอบข้อกล่าวหาที่ว่าซูดานใต้ให้การสนับสนุนกลุ่มกบฏในซูดาน

 


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 22 ส.ค. 2556 เวลา : 10:30:53

22-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 22, 2024, 3:06 am