นายนิพิฎฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จ.พัทลุง เปิดเผยถึง สถานการณ์ชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง อ.ชะอวด ที่บริเวณสี่แยกควนหนองหงส์ ต.ชะอวด อ.ชะอวด นครศรีธรรมราชว่า

ได้รับโทรศัพท์ว่ามีการเตรียมกำลังตำรวจอย่างน้อย 3 พันคนเพื่อสลายการชุมนุม คาดว่าจะมีการเจรจราอีกรอบและน่าจะมีการสลายการชุมนุม คาดการณ์ว่าอย่างนั้น  นอกจากนี้ ยังมีการพยายามแยกแกนนำของผู้ชุมนุมบางส่วนออกมา เป็นการแยกแกนนำหลักออกมาเพื่อไม่ให้ร่วมชุมนุม และจัดมวลชนขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือต่อต้านผู้ชุมนุม โดยอ้างว่าประชาชนเดือดร้อน

ส่วนการเจรจาเมื่อวานนี้ นายนิพิฎฐ์ กล่าวว่า คิดว่าคุณสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ได้รับมอบอำนาจให้ไปเจรจาหรือไม่ ผมเชื่อว่าไม่ได้รับมอบอำนาจให้ไปเจรจา แต่ไปเพื่อไปรับข้อเสนอของพี่น้องประชาชน เพราะรมว.เกษตรฯพูดชัดเจนว่ารัฐบาลจะไม่แทรกแซง ปล่อยให้เป็นไปตามกลไกตลาด เพราะฉะนั้นใครจะไปรับปากพี่น้องคงเป็นไปไม่ได้ คุณสุภรณ์เพียงแต่ไปเตะถ่วงเวลาเท่านั้น  ประการที่สอง ตามที่คำนวณมาต้นทุนต่ำสุดอยู่ที่ 84 บาท แต่เขาไปเจรจาที่ 80 บาท แล้วมีอำนาจในการเจรจาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ ที่ผมทราบเมื่อคุณสุภรณ์ได้เจรจากับผู้ชุมนุมแล้วล้มเหลว ก็ไปเจรจากับประชาชนอีกกลุ่มหนึ่งตกลงกันได้ที่ 80 บาท ทั้งที่กลุ่มนั้นไม่ได้มาร่วมชุมนุมแต่มาอ้างว่าเป็นกลุ่มที่มาชุมนุม ซึ่งมีการตั้งประชาชนกลุ่มหนึ่งไปต่อต้านผู้ชุมนุมแล้วอ้างว่าประชาชนเดือดร้อน ผมไม่ทราบว่าใครไปตั้งมวลชนขึ้นมา

เฉพาะหน้าที่ผมกลัวคือ กลัวจะมีการใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุม และคนปักษ์ใต้ถ้าชาวบ้านสู้แล้วแล้วตำรวจไปสลายการชุมนุม จะใช้อาวุธลุกขึ้นสู้กับเจ้าหน้าที่รัฐ และเมื่อเขาสู้แล้วไปสลายเขาแล้วทำให้เขาบาดเจ็บจะเป็นกองทัพจับปืนสู้กับอำนาจรัฐ อันตรายมากๆ ผมเตือนก่อนว่าอย่าใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุม ต้องเจรจากับเขา ยางที่บอกใช้เงินมาแล้ว 2 หมื่นล้านบาท มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร เพราะอยู่ได้เป็น สิบๆปี มันก็อยู่ในสต็อก 2 หมื่นล้านราคามันไม่ได้หายไปไหน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของราคานั้น ตนคงไม่ไปชี้นำกลุ่มผู้ชุมนุม และตนก็ไม่ได้มียางพาราแม้แต่ต้นเดียว ให้ผู้ชุมนุมเขาเจรจากันเอง เพียงแต่ตัวเลขต่ำสุดคือ 84 บาท ต้องเอาฐานตัวนี้เป็นหลัก

ส่วนการกล่าวหาว่ามีประชาธิปัตย์อยู่เบื้องหลัง เป็นการกล่าวหาที่น่าเกลียดมาก เราไปให้กำลังใจประชาชน ขึ้นเวทีเราก็ขึ้นไม่ได้ ปล่อยเกษตรกรเขาไป ไม่มีที่ผู้แทนราษฎรอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลังและพี่น้องประชาชนเขาก็คงไม่ยอมให้เราเป็นตัวนำในการขับเคลื่อน เพราะเขาจะกล่าวหาว่าเราฉวยโอกาส ผมได้รับโทรศัพท์ว่าผู้แทนฯไม่ไปดูดำดูดีเขาเลย ต้องยอมรับว่าประชาชนเขาเดือดร้อน เขาชุมนุมกันเอง  ถ้าเป็นผมเป็นแกนนำ จะบอกให้ขึ้นมากรุงเทพฯเลย แต่ขึ้นมาไม่ได้ เพราะเขาไม่มีทุน