มีรายงานความคืบหน้าสถานการณ์การชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางพารา และสวนปาล์มน้ำมัน ใน อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช ว่า เมื่อเวลา 14.30 น. นายวิโรจน์ จิวะรังสรรค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้มอบอำนาจให้ นายอรุณ รสจันทร์วงศ์ ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดนครศรีธรรมราช ยื่นคำร้องต่อศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อไต่สวนฉุกเฉิน และขอคำสั่งศาลเพื่อขอบังคับคืนพื้นที่สาธารณะที่กลุ่มผู้ชุมนุมใช้เป็นพื้นที่ชุมนุม ทั้ง 2 จุด คือ ที่แยกควนหนองหงส์ ต.ควนหนองหงส์ และแยกบ้านตูล ต.บ้านตูล อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช
เช่นเดียวกัน พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช ได้เรียกประชุมศูนย์ปฏิบัติการตำรวจ สภ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช เพื่อสรุปข้อมูล และมอบหมายให้พนักงานสอบสวนที่ถูกเรียกตัวมาเร่งดำเนินการทำสำนวน เพื่อขออนุมัติหมายจับกุมกลุ่มผู้ชุมนุมอย่างน้อย 5 ราย ที่มีบทบาทเป็นแกนนำในการชุมนุมทั้ง 2 จุด โดยเฉพาะในจุดแยกบ้านตูล ต.บ้านตูล ซึ่งคราดว่าจะแล้วเสร็จในค่ำวันนี้ ก่อนใช้มาตรการทางกฎหมายดำเนินการในช่วงเช้ามืดของวันพรุ่งนี้ โดยขณะนี้ได้มีการเคลื่อนกำลังเจ้าหน้าที่ปราบจลาจลเข้ามาพักอยู่ที่สำนักงานเขตห้ามล่าพันธุ์สัตว์ป่าบ้านบ่อล้อ ห่างจากจุดชุมนุมประมาณ 20 กิโลเมตร
พล.ต.ต.รณพงศ์ ทรายแก้ว ผบก.ภ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า กรณีนำภาพผู้ที่ได้รับบาดเจ็บแชร์กันต่อๆ ไปในสังคมออนไลน์นั้น ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ที่ระบุว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้ไฟช็อตจนบาดเจ็บสาหัส ซึ่งขณะนี้ตกเป็นผู้ต้องหาในการชุมนุมด้วย เจ้าหน้าที่ได้ติดตามผลการตรวจทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลมหาราช นครศรีธรรมราช พบว่า ไม่ได้เป็นอะไรมาก และพบข้อมูลอีกว่า สาเหตุที่บาดเจ็บมีร่องรอยการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ก่อนที่จะมีการชุมนุม ขณะเดียวกัน อาจมีการดำเนินคดีกับพี่สาวที่ใส่ร้ายเจ้าหน้าที่ว่าถูกเจ้าหน้าที่ใช้ไฟฟ้าช็อตด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า สำหรับการชุมนุมยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง แม้ว่า นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้เข้ามาเจรจา และแถลงว่าการชุมนุมยุติแล้วหลังจากที่กลุ่มแกนนำได้ยอมรับผลการเจรจาตามข้อเสนอ คือ ประกันราคายางพาราแผ่นดิบที่ 80 บาท/กก. น้ำยางสดที่ 70 บาท/กก. และยางก้นถ้วย หรือขี้ยางที่ 40 บาท/กก. แต่แท้จริงพบว่า กลุ่มผู้ชุมนุมนั้นมีอยู่ด้วยกันหลายกลุ่ม และต่างมีจุดมุ่งหมายเดียวกันคือ ราคายางที่เพิ่มสูงขึ้น แต่ปรากฏว่า แต่ละกลุ่มไม่สามารถตกลงกันได้ โดยส่วนหนึ่งยินยอมในราคาประกัน 80 บาท แต่อีกส่วนรับได้ที่ 100 บาท และเกิดความไม่พอใจกันขึ้นจนนำไปสู่การขยายการชุมนุม
ขณะเดียวกัน กำนัน และผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ได้แสดงความเห็นว่า กลุ่มชุมนุมไม่ใช่คนในพื้นที่ และมีใบปลิวออกมาระดมการต่อต้านการชุมนุมอย่างเป็นระบบ แต่เมื่อมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ อ.ชะอวด ราว 80%
ข่าวเด่น