นางลักษมณ อรรถาพิช เศรษฐกรอาวุโส สำนักงานผู้แทนประเทศไทย ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือ เอดีบี กล่าวว่า ขณะนี้เอดีบีอยู่ระหว่างการจัดทำประมาณการอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจใหม่ จากเดิมที่ประเมินว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ 4.9 เนื่องจาก การส่งออกไม่สามารถฟื้นตัวได้ตามที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จและเผยแพร่ได้ในช่วงต้นเดือนตุลาคมนี้
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการส่งออกครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจโลกที่เริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น รวมทั้งการใช้จ่ายภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน วงเงิน 2 ล้านล้านบาท ที่จะช่วยกระตุ้นการลงทุนภาคเอกชนและการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ขยายตัวได้ร้อยละ 4-4.3 ในปีนี้
ส่วนกรณีที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือเฟด จะปรับลดมาตราการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ คิวอี ลงเหลือเดือนละ 65,000 ล้านเหรียญสหรัฐ จากเดิมที่อยู่ที่เดือนละ 85,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในช่วงกลางเดือนกันยายนนี้ เชื่อว่าจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยน้อยกว่าอินโดนีเซีย และอินเดีย เนื่องจากไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง และพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังอยู่ในเกณฑ์ดี ไม่ได้ถดถอย
อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่า ระดับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูง ทำให้การใช้จ่ายภาคครัวเรือนชะลอตัวลง แต่ยังไม่จำเป็นต้องใช้มาตรการกระตุ้นการบริโภค
ข่าวเด่น