ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์ วิเคราะห์ราคาน้ำมันดิบลง หลังตลาดคลายกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรีย



น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 1.45 เหรียญฯ ปิดที่ 115.16 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 1.30 เหรียญฯ ปิดที่ 108.80 เหรียญฯ
 
- ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์ปรับลดลง เนื่องจากตลาดคลายความกังวลว่าสหรัฐและประเทศพันธมิตรจะใช้กำลังทหารตอบโต้การใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในซีเรียในเร็ววันนี้ หลังจากมีรายงานว่าอังกฤษและฝรั่งเศสประกาศจะรอผลการตรวจสอบจากสหประชาชาติว่ามีการใช้อาวุธเคมีสังหารประชาชนในซีเรียจริงตามข้อกล่าวหาหรือไม่ ก่อนที่จะดำเนินการใดๆ ต่อไปกับซีเรีย
 
-สำนักวิจัยด้านพลังงาน PIRA คาดการณ์ว่าซาอุดิอาระเบียคาดจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบเป็น 10.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในช่วงไตรมาสที่ 3 ซึ่งเพิ่มขึ้นประมาณ 1 ล้านบาร์เรลต่อวันจากไตรมาสที่ 2 เพื่อชดเชยอุปทานที่ขาดหายไปจากลิเบียและอีกหลายประเทศ
 
-สำนักงานพลังงานสากล (IEA) เผยขณะนี้อุปทานยังคงเพียงพอต่อความต้องการจึงไม่จำเป็นต้องนำน้ำมันดิบจากคลังสำรองฉุกเฉินออหมาใช้ แม้ว่าล่าสุดการส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียจะลดลงไปอยู่ที่ 145,000 บาร์เรลต่อวันจากระดับปกติที่ 1.4 ล้านบาร์เรลต่อวัน
 
+ตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ ประจำไตรมาสที่ 2/25586 ขยายตัว 2.5% มากกว่ทาที่นักวิเคระห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 2.2% และมากกว่าตัวเลขที่ประมาณการครั้งแรกที่ขยายตัว 1.7% เนื่องจากยอดส่งออกที่เพิ่มมากขึ้น
 
+ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงานของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ลดลง 6,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 331,000 ราย ซึ่งสังเกตได้ว่าตัวเลขดังกล่าวทรงตัวตั้งแต่เดือน ก.ค.
 
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมัยดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการนำเข้าจากอินโดนีเซีย นอกจากนี้อุปทานยังเพิ่มขึ้นหลังจากอินเดียมีการส่งออกเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากค่าเงินรูเปียอ่อนค่า
 
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการจากอินโดนีเซียและเวียดนามยังคงเบาบาง ประกอบกับปริมาณเบนซินคงคลังที่ประเทศสิงคโปร์และทางตะวันออกกลางยังคงอยู่ในระดับสูง
 
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบเดิม โดย WTI ที่กรอบ 105-111 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 110-116 เหรียญฯ โดยราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบสูงเนื่องจากสถานการณ์ในซีเรียยังไม่มีความแน่นอน ส่วนวันนี้ติดตามตัวเลขอัตราว่างงานและดัชนีผู้บริโภคในยูโรโซน
 
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามสัปดาห์นี้  ได้แก่
วันศุกร์: อัตราว่างงานและดัชนีผู้บริโภคยูโรโซน รวมถึงอัตราการว่างงานอิตาลี
วันอาทิตย์: ดัชนีการผลิตของจีน
 
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
-สถานการณ์ในซีเรียที่ยังไม่มีความแน่นอน ซึ่งหากสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงตามที่หลายฝ่ายคาดก็จะทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายและอาจส่งผลต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันของภูมิภาคตะวันออกกลาง
 
-ความรุนแรงในอียิปต์ที่ยังคงไร้ทางออก ล่าสุด ซาอุดิอาระเบียได้ประกาศให้การสนับสนุนทางการเงินแก่อียิปต์ หากสหรัฐฯและยุโรปเพิกถอนการสนับสนุนอียิปต์เนื่องจากความรุนแรงที่เกิดขึ้น
 
-การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียยังคงปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับต่ำเพียง 250,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 400,000-500,000 บาร์เรลต่อวัน เมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ เรื่องมาจากการประท้วงของคนงานบริษัทน้ำมันที่ยืดเยื้อ แม้ว่าท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบบางแหล่งมีแนวโน้มจะกลับมาเปิดใช้ได้ตามเดิม
 
-การกลับมาดำเนินการอีกครั้งของแหล่งน้ำมันดิบบริเวณทะเลเหนือ หลังผ่านพ้นช่วงปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ประจำปี
 
-ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่าจะมีความคืบหน้าของการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปเพิ่มเติมหรือไม่


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ส.ค. 2556 เวลา : 10:53:17

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 6:35 am