น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 1.35 เหรียญฯ ปิดที่ 115.68 เหรียญฯ ส่วนเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.89 เหรียญฯ มาอยู่ที่ 108.54 เหรียญฯ
+ ราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงขึ้น เนื่องจากตลาดยังคงความกังวลต่อทิศทางการใช้นโยบายทางการทหารของรัฐบาลสหรัฐฯ ต่อซีเรีย โดยรัฐบาลสหรัฐฯ นำโดยประธานาธิบดี บารัค โอบามา ยังคงพยายามโน้มน้าวให้สภาคองเกรสสนับสนุนการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งถูกกล่าวหาว่าใช้อาวุธเคมีโจมตีประชาชนเมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา โดยล่าสุดนายจอห์น โบห์เนอร์ สมาชิกระดับสูงของพรรคเดโมแครต และนาย นายอีริก แคนเตอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในสภาผู้ทานราษฎร ได้ออกมาให้การสนับสนุนการปฏิบัติการทางทหารเพื่อตอบโต้ความรุนแรงในซีเรีย ซึ่งหากสหรัฐฯ เข้าโจมตีซีเรียจริง อาจส่งผลให้ปัญหาความไม่สงบในตะวันออกกลางลุกลามไปยังประเทศอื่นๆ และอาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตนำมันดิบ
+ ดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 55.7 จากระดับ 55.4 ในเดือนก.ค. สวนทางกับการคาดการณ์ว่าจะปรับตัวลดลงสู่ระดับ 54 ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่เหนือระดับ 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมภาคการผลิตของสหรัฐฯ ยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และหนุนกระแสคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโดยรวมของสหรัฐฯ อาจขยายตัวได้เร็วขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี
+ นอกจากนั้น การใช้จ่ายด้านการก่อสร้างของสหรัฐฯ ในเดือนก.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า สูงกว่าการคาดการณ์ว่าจะปรับเพิ่มขึ้นเพียง 0.3% ขณะที่กิจกรรมการก่อสร้างเดือน มิ.ย.ได้รับการปรับทบทวนขึ้นเป็นทรงตัว จากการรายงานก่อนหน้านี้ที่ระบุว่าปรับตัวลดลง 0.6%
- ซาอุดิอาระเบียวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสที่ 3 ของปี 56 มาอยู่ที่ระดับ 10.5 ล้านบาร์เรลต่อวัน เพื่อรองรับปริมาณความต้องการที่คาดว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น ประกอบกับความกังวลต่ออุปทานที่ขาดหายไปจากกำลังการผลิตในลิเบียที่ปรับตัวลดลงจากระดับ 1.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ในระดับต่ำกว่า 0.25 ล้านบาร์เรล จากเหตุการณ์ประท้วงปิดท่าเรือส่งออกน้ำมัน อย่างไรก็ดี ปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้นประมาณ 0.4 ล้านบาร์เรล จะนำมาใช้เพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศของซาอุดิอาระเบีย
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากสภาวะตึงตัวของอุปทานในช่วงการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นในอินเดียและมาเลเซีย ส่งผลให้มาเลเซียต้องนำเข้าน้ำมันเบนซินเพื่อทดแทนปริมาณที่ขาดหายไปจากเหตุเพลิงไหม้ นอกจากนั้นตลาดคาดว่าจะมีอุปสงค์เข้ามาจากอินโดนีเซียในช่วงไตรมาส 4
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากการปรับตัวเพิ่มขึ้นของโอกาสเคลื่อนย้ายน้ำมันดีเซลจากฝั่งเอเชียไปยังแอฟริกาและยุโรป
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบเดิม โดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 105-111 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ เคลื่อนไหวในกรอบ 110 - 116 เหรียญฯ โดยราคายังคงเคลื่อนไหวในกรอบสูงเนื่องจากสถานการณ์ในซีเรียยังไม่มีความแน่นอน ส่วนวันนี้ติดตามยอดขายรถของสหรัฐฯ รวมถึง ยอดค้าปลีกและจีดีพี 2/56 ของยูโรโซน
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ยอดขายรถของสหรัฐฯ รวมถึง ยอดค้าปลีกและจีดีพี 2/56 ของยูโรโซน
วันพฤหัสฯ: ยอดขายร้านสาขา การจ้างงานภาคเอกชน ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดสั่งซื้อโรงงาน และดัชนีภาคบริการสหรัฐฯ
วันศุกร์: การจ้างงานนอกภาคเกษตร
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- สถานการณ์ในซีเรียที่ยังไม่มีความแน่นอน ซึ่งหากสหรัฐฯ ตัดสินใจเข้าแทรกแซงตามที่หลายฝ่ายคาดก็จะทำให้เหตุการณ์ยิ่งบานปลายและอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตและส่งออกน้ำมันของภูมิภาคตะวันออกกลาง
- ความรุนแรงในอียิปต์ที่ยังคงไร้ทางออก ล่าสุดซาอุดิอาระเบียได้ประกาศให้การสนับสนุนทางการเงินแก่อียิปต์ หากสหรัฐฯและยุโรปเพิกถอนการสนับสนุนอียิปต์เนื่องจากเหตุความรุนแรงที่เกิดขึ้น
- การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียยังคงปรับลดลงต่อเนื่องมาอยู่ที่ระดับต่ำกว่า 200,000 บาร์เรลต่อวัน จาก 400,000 - 500,000 บาร์เรลต่อวันเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เนื่องมาจากการประท้วงของคนงานบริษัทน้ำมันที่ยืดเยื้อ แม้ว่าท่าเรือส่งออกน้ำมันดิบบางแหล่งมีแนวโน้มจะกลับมาเปิดใช้ได้ตามเดิม
- การกลับมาดำเนินการอีกครั้งของแหล่งน้ำมันดิบบริเวณทะเลเหนือ หลังผ่านพ้นช่วงปิดซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ประจำปี
- ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรปในวันที่ 5 ก.ย. นี้ ว่าจะมีความคืบหน้าของการแก้ปัญหาหนี้ยุโรปเพิ่มเติมหรือไม่
ข่าวเด่น