บริษัทศูนย์วิจัยกสิกรไทย สรุปภาวะตลาดเงินรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 2-6 ก.ย.) เงินบาทร่วงแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบกว่า 3 ปีครั้งใหม่ที่ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ หลังจากที่ได้รับแรงหนุนช่วงสั้นๆ ต้นสัปดาห์จากแรงขายทำกำไรเงินดอลลาร์ฯ ของนักลงทุน
ทั้งนี้ เงินบาทปรับตัวอ่อนค่าลงเกือบตลอดทั้งสัปดาห์ ตามสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชียที่เผชิญแรงกดดันจากกระแสเงินทุนไหลออก และความกังวลต่อสถานการณ์ในซีเรีย นอกจากนี้ เงินดอลลาร์ฯ ยังได้รับแรงหนุนจากสัญญาณแข็งแกร่งของตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ (เช่น ดัชนี ISM ภาคการผลิตและภาคบริการ) ซึ่งหนุนการคาดการณ์การชะลอมาตรการ QE ในการประชุมเฟดวันที่ 17-18 ก.ย.นี้
ในวันศุกร์ (6 ก.ย.) เงินบาทอยู่ที่ระดับ 32.37 หลังอ่อนค่าแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 3 ปีที่ 32.48 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 32.16 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (30 ส.ค.)
สำหรับแนวโน้มสัปดาห์ถัดไป (9-13 ก.ย.) เงินบาทอาจเคลื่อนไหวในกรอบ 32.20-32.50 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยคงต้องจับตากระแสการคาดการณ์ต่อสัญญาณชะลอมาตรการ QE ของเฟด รวมถึงผลการลงมติของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ต่อข้อเสนอของประธานาธิบดีบารัก โอบามาในการใช้กำลังทางทหารโจมตีซีเรีย ขณะที่ ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ สำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (เบื้องต้น) เดือนก.ย. ยอดค้าปลีก ดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีราคานำเข้า-ส่งออก งบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนส.ค. สต็อกสินค้าภาคค้าส่ง-ภาคธุรกิจเดือนก.ค. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดอาจจับตาตัวเลขเศรษฐกิจเดือนส.ค. ของจีนอีกด้วย
ข่าวเด่น