" น้ำมันร่วงต่อหลังซีเรียยอมรับข้อเสนอรัสเซียที่จะส่งมอบอาวุธเคมีเพื่อเลี่ยงการบุกของสหรัฐฯ"
น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 2.13 เหรียญฯ ปิดที่ 7.39 หรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 2.47 เหรียญฯ ปิดที่ 111.25 เหรียญฯ
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง 2 วันติดต่อกันกว่า 4 เหรียญ หลังรัฐบาลซีเรียยอมรับข้อเสนอรัสเซียที่จะส่งมอบอาวุธเคมีและให้นานาชาติตรวจสอบบริเวณผลิตอาวุธเคมี เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสหรัฐฯโจมตี อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติยังกังวลว่ารัฐบาลซีเรียจะสามารถทำตามข้อเสนอของรัสเซียได้หรือไม่
- นักลงทุนเริ่มมองเห็นสัญญาณที่ลิเบียจะเพิ่มกำลังการส่งออกน้ำมันดิบ หลังจากที่คณะกรรมการด้านพลังงานของรัฐบาลลิเบียเตรียมข้อเสนอในการยุติความขัดแย้งของกลุ่มคนงานให้กับรัฐสภาแห่งชาติ โดยปริมาณการผลิตน้ำมันของลิเบียตกลงจากการผลิตที่ระดับ 1.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 0.15 ล้านบาร์เรลต่อวัน และส่งออกเพียงแค่ 80,000 บาร์เรลต่อวัน
- อย่างไรก็ดี กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันโอเปกมองว่าอุปทานน้ำมันในตลาดยังคงมีเพียงพอกับความต้องการ และคาดการณ์ว่าสัดส่วนน้ำมันดิบของโอเปกในตลาดโลกในปี 2014 จะลดลง โดยประมาณตัวเลขอุปทานน้ำมันจากกลุ่มโอเปกในปี 2014 ที่ 35.62 ล้านบาร์เรลต่อวัน สอดคล้องกับการที่กระทรวงพลังงานสหรัฐฯประมาณตัวเลขการผลิตน้ำมันดิบของผู้ผลิตที่ไม่ใช่โอเปกเพิ่มขึ้น โดยสหรัฐฯ จะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบจาก 7.5 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2013 เป็น 8.4 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2014 ในขณะที่อุปสงค์โลกเกือบจะคงที่ โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2013 เพียงแค่ 20,000 บาร์เรลต่อวัน
+ ตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีนและยอดขายปลีกจีนออกมาดีเกินคาด โดยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมปรับเพิ่ม 10.4% จากปีก่อน ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มที่แรงสุดในรอบ 17 เดือนที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดค้าปลีกปรับเพิ่ม 13.4% ในเดือนส.ค. ส่งสัญญานถึงการฟื้นตัวของประเทศผู้นำเศรษฐกิจอันดับสองของโลก
+ สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯปรับลดลงอีก 2.9 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 359.5 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่นักวิคราะห์คาดการไว้เพียงแค่ 1.5 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณาณน้ำมันเบนซินคงคลังจะปรับเพิ่มขึ้น 0.19 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่คาดว่าจะปรับลดลง 1.3 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงแรงกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากคาดว่าอุปสงค์นำเข้าน้ำมันจากอินโดนีเซียในเดือน ต.ค. จะลดลงถึง 25% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค. เนื่องมาจากปัญหาค่าเงินอ่อนตัว
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงตามราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากผู้เล่นมีความกังวลกับราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลดลงแรง รวมถึงอุปทานล้นเหลือในภูมิภาค
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวในกรอบลดลงโดยเวสต์เท็กซัสที่กรอบ 105-111 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 109-115 เหรียญฯ เนื่องจากยังมีความไม่แน่นอนว่าสหรัฐฯ จะโจมตีซีเรียหรือไม่ โดยในวันนี้ติดตามการแถลงการของประธานาธิบดีโอบามาในเรื่องนี้ และตัวเลขปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯ และยอดค้าส่งสหรัฐฯ
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ยอดค้าส่งสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้บริโภคเยอรมนี (ครั้งสุดท้าย)
วันพฤหัสฯ: การผลิตภาคอุตสาหกรรมสหภาพยุโรป และรายงานดุลงบประมาณธนาคารกลางสหรัฐฯ
วันศุกร์: ดัชนีราคาผู้ผลิต ยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ
- ติดตามรายงานสถานการณ์น้ำมันประจำเดือน ก.ย. ของ EIA, OPEC (10 ก.ย.) และ IEA (12 ก.ย.) ว่าจะมีมุมมองต่อทิศทางอุปสงค์และอุปทานน้ำมันดิบอย่างไร ภายหลังซาอุดิอาระเบียวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตในไตรมาสที่ 3 เพื่อชดเชยปริมาณน้ำมันดิบที่คาดว่าจะหายไปเนื่องจากเหตุการณ์ความไม่สงบ
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- ติดตามผลการตรวจสอบการใช้อาวุธเคมีในซีเรียโดยสหประชาชาติที่คาดว่าจะมีรายงานออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งจะถือเป็นหลักฐานสัญที่ชาติตะวันตกหลายประเทศจะนำไปใช้เพื่อการพิจารณาว่าจะเข้าโจมตีซีเรียเพื่อหยุดยั้งการใช้อาวุธเคมีหรือไม่
- ความคืบหน้าแผนปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯต่อซีเรีย หลังคณะกรรมาธิการความสัมพันธ์ต่างประเทศของวุฒิสภาสหรัฐฯ เห็นชอบให้มีการโจมตีซีเรีย ติดตามการลงมติเห็นชอบของวุฒิสภาสหรัฐฯ ในวันพุธนี้ และของสภาผู้แทนฯ ในช่วงปลายสัปดาห์ว่าจะเห็นชอบให้สหรัฐฯ บุกโจมตีซีเรียหรือไม่
- การส่งออกน้ำมันดิบของลิเบียที่ลดลงต่อเนื่องจนมาอยู่ที่ระดับ 80,000 บาร์เรลต่อวัน ยังคงทำให้ตลาดกังวลว่าอุปทานน้ำมันดิบจะตึงตัวต่อเนื่อง แม้ว่าท่าเรือหลายแห่งจะกลับมาเปิดดำเนินการแล้วก็ตาม
- การปิดซ่อมบำรุงท่าเรือส่งออกของอิรักในเดือน ก.ย. ทำให้การส่งออกลดลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตึงตัวขึ้น
- กำลังการผลิตน้ำมันดิบจากบริเวณทะเลเหนือจะกลับมาอยู่ที่ระดับเดิมเมื่อไร หลังล่าสุดการส่งมอบน้ำมันบางส่วนของเดือน ก.ย. ได้ถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือน ต.ค.
ข่าวเด่น