สรุปภาวะตลาดวันก่อน    : SET +8.86 จุด แรงขายทำกำไรถ่วงท้ายตลาด
SET แกว่งผันผวนสูง แต่อยู่ในแดนบวกกรอบ 1384-1413 โดยมีแรงขายทำกำไรหนักช่วง 4 โมงเย็น ทำให้ยังไม่สามารถปิดเหนือ 1400 จุดได้ นลท.เวียนเข้าลงทุนหุ้นที่ยังปรับตัวขึ้นน้อย (laggards) ท่ามกลางวอลุ่มซื้อขายหนาแน่นถึง 7.06 หมื่นลบ. สูงสุดรอบ 10 สัปดาห์  ต่างชาติซื้อสุทธิต่ออีก 3.52 พันลบ. ?

ทิศทางตลาดวันนี้    : ลุ้นขึ้นทะลุ 1400 จุด (อีกครั้ง) เงินนอกไหลเข้า
หุ้นโลกเมื่อคืน (10 ก.ย.) ขึ้นยกแผง ขานรับผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีนขยายตัว 10.4% YoY สูงสุดรอบ 17 เดือน และดีกว่าตลาดคาดที่ +9.9% ส่งผลเชิงบวกต่อแนวโน้มการฟื้นตัวของศก.โลก นอกจากนี้ยังคลายกังวลกรณีซีเรีย หลังซีเรียยอมรับข้อเสนอปลดอาวุธเคมี ขณะที่ปธน.สหรัฐฯ มีท่าทีอ่อนลงในการใช้กำลังทหารบุกซีเรีย ด้านแนวโน้มเงินนอกเริ่มไหลกลับเข้าหุ้นเอเชีย หลังคาดการณ์ FED จะลดจำนวน QE ลงไม่มาก (ราว 1-1.5 หมื่นล้าน$) และเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไป  มอง SET มีโอกาสเดินหน้าขึ้นต่อ ทดสอบแนวต้าน 1400-10 แต่ระหว่างวันยังแกว่งตัวสูงจากการขายทำกำไร แนวรับ 1380-85 ?

กลยุทธ์การลงทุน    : ยังเน้นหุ้น laggards แต่เลือกเป็นรายตัวมากขึ้น
แนวโน้มราคาน้ำมันระยะสั้นยังเสี่ยงในการปรับลง หลังซีเรียอาจไม่ถูกโจมตีทางทหารจากสหรัฐฯ ดังนั้น เราแนะนำให้ทยอยขายทำกำไรหุ้นพลังงานที่ปรับตัวขึ้นมาแล้วโยกเข้าสู่หุ้นการบินที่เคยได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันแพงในช่วงก่อนหน้านี้ ชอบ NOK ด้วย SET เดือนนี้ (MTD) ขึ้นมาแล้วเกือบ 100 จุด มองจำเป็นต้องเลือกเทรดดิ้งเป็นรายตัวมากขึ้น หุ้นที่ราคายังปรับขึ้นน้อย (laggards) แนะนำ SET50 : BGH, TCAP, LH, HMPRO, GLOBAL , SET100 : KTC, AMATA, LPN, SC, DEMCO , NON-SET100 : ASP, PM, WORK ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) ล่าสุดการขึ้นเริ่มชะลอตัว อาจกระตุ้นแรงขายทำกำไรระยะสั้น แต่เรามองยังอยู่ในขาซิกแซกขึ้นอีกในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เป็นจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว ชอบ TTA, PSL, JUTHA และหุ้นที่ได้ประโยชน์จาก พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ. เข้าสู่สภาฯ 12 ก.ย. นี้ ได้แก่ หุ้นกลุ่มรับเหมาฯ (ชอบ CK, STEC, SEAFCO), กลุ่มธนาคาร (ชอบ KTB, SCB, KBANK), กลุ่มที่อยู่อาศัย (ชอบ LH, QH, SIRI) และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง (ชอบ SCC, TPIPL, TASCO) ?

หุ้นเด่นรายวัน    : ASP , BGH
ASP – มูลค่าการซื้อขายของลูกค้า ASP เพิ่มขึ้นกว่า 94% YTD และมีส่วนแบ่งการตลาดที่เพิ่มขึ้นเป็น 4.31% จากเดิม 4.18% ประกอบกับมีงาน IPO เข้ามาหลายงานทั้ง PACE และ M รวมทั้งภาวะตลาดที่กลับมาดี จะหนุนรายได้ใน Q3 และปัจจุบันราคาหุ้นซื้อขายด้วย PER เพียง 7.32 เท่า และปันผล 6-7% ?
BGH – เป็นหุ้นใหญ่ที่ราคาปรับขึ้นน้อย บริษัทมีแผนที่จะขยายโรงพยาบาลเพิ่มอย่างต่อเนื่องโดยในช่วง 1H57 จะมีการเปิดเพิ่มอีก 5 แห่งซึ่งจะทำให้ผลประกอบการในระยะยาวเติบโตขึ้นจากแนวโน้มสัดส่วนประชากรสูงอายุที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต มูลค่าที่เหมาะสม 185 บาท (SOTP) ?

ปัจจัยติดตาม

11 ก.ย.    GE    ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของเยอรมันในเดือน ส.ค.
    UK    ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของอังกฤษในเดือน ส.ค.
     US    ตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.
12 ก.ย.    JP    ตัวเลขคำสั่งซื้อเครื่องจักรของญี่ปุ่นในเดือน ก.ค.
    EU    ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปในเดือน ก.ค.
    IT    ตัวเลขผลผลิตภาคอุตฯ ของอิตาลีใน ก.ค. และดัชนีราคาผู้บริโภคของอิตาลีใน ส.ค.
    FR    ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของฝรั่งเศสในเดือน ส.ค.
     US    ตัวเลขผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกของสหรัฐฯ ประจำสัปดาห์ สิ้นสุดวันที่ 6 ก.ย.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research