ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,326.60 จุด เพิ่มขึ้น 135.54 จุด หรือ +0.89% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,689.13 จุด เพิ่มขึ้น 5.14 จุด หรือ +0.31% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,725.01 จุด ลดลง 4.01 จุด หรือ -0.11%
 
ขณะที่ ตลาดหุ้นยุโรป ปิดบวกเมื่อคืนนี้เช่นกัน โดยดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 310.88 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดในรอบกว่า 5 ปีนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2551 ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,119.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.47 จุด หรือ +0.06% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 8,495.73 จุด เพิ่มขึ้น 49.19 จุด หรือ +0.58% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,588.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.44 จุด หรือ +0.07%

ทั้งนี้ ทั้งตลาดหุ้นนิวยอร์กและตลาดหุ้นยุโรปที่ปิดบวก เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลว่าสหรัฐจะใช้กำลังทางทหารโจมตีซีเรีย หลังจากประธานาธิบดีโอบามาได้ขอให้สภาคองเกรสเลื่อนการลงมติในประเด็นการโจมตีทางทหารต่อซีเรีย ซึ่งบ่งชี้ว่าฝ่ายบริหารจะพยายามใช้วิธีการทางการทูตในการคลี่คลายวิกฤตซีเรียในขณะนี้
 
ทั้งนี้ นายโอบามาแถลงทางโทรทัศน์ทั่วประเทศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า สหรัฐและรัสเซียจะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีต่างประเทศในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหาในซีเรีย โดยระบุว่าการโจมตีทางทหารยังคงเป็นทางเลือกหนึ่ง พร้อมระบุว่า สหรัฐจะทำงานร่วมกับรัสเซียและประเทศพันธมิตรอื่นๆเพื่อดำเนินการตามญัตติของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ที่จะทำให้ซีเรียยกเลิกอาวุธเคมี โดยจะส่งนายจอห์น แคร์รี รมว.ต่างประเทศสหรัฐพบปะกับเจ้าหน้าที่รัสเซีย