สรุปภาวะตลาดวันก่อน: SET -13.28 จุด ขายล็อกกำไร หลัง +5 วันติด
SET ปรับขึ้นได้ในภาคเช้า แตะระดับสูงสุดใหม่ในรอบ 1 เดือน ที่ 1422 จุด ก่อนที่จะมีแรงขายล็อกกำไรจนพลิกกลับมาติดลบในช่วงปิดตลาด (Call-Market) ส่งผลให้ SET ปิดระดับต่ำสุดของวัน ที่ 1397 ยุติการปรับขึ้น 5 วันติดต่อกัน กลุ่ม ICT, ENERG นำลง อย่างไรก็ดี ต่างชาติยังซื้อสุทธิต่อเล็กน้อย 74 ลบ.
ทิศทางตลาดวันนี้ : พักฐาน กรอบจำกัด รอประชุม FED 18 ก.ย.
หุ้นโลกเมื่อคืน (12 ก.ย.) ลบเล็กน้อย โดยแกว่งในกรอบแคบ เนื่องจากนักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ก่อนหน้าการประชุม FED ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 ก.ย. นี้ แม้จำนวนขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ (7 ก.ย.) จะลดลงถึง 31K เป็น 292K ต่ำสุดรอบ 7 ปี แต่เป็นเพราะระบบคอมพิวเตอร์ของ 2 รัฐในสหรัฐฯ มีปัญหา ทำให้ตัวเลขที่รายงานจึงออกมาน้อย นอกจากนี้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหภาพยุโรปหดตัว 1.5% MoM ใน ก.ค. แย่กว่าตลาดคาดที่ -0.3% MoM กระแสเงินทุนนอกไหลเข้าตลาดหุ้น “TIP” เริ่มชะลอ มอง SET แกว่งพักฐาน แนวต้าน 1420 +/- แนวรับ 1380-85 คาดหุ้น AIM, PAE และ TSF ติด Cash Balance เย็นนี้
กลยุทธ์การลงทุน : ขึ้นเน้นขาย; เทรดดิ้งสั้นเน้นหุ้นนอก SET100
การขึ้นรวดเดียวกว่า 100 จุดของ SET นับตั้งแต่ต้นสัปดาห์นี้ ทำให้เสี่ยงต่อการปรับฐานลงทางเทคนิคมากขึ้น เราแนะนำเริ่มทยอยขายทำกำไรก่อนรู้ผลประชุม FED 18 ก.ย. นี้ เนื่องจากมองว่าจะเกิดแรงขายลักษณะ “Sell on Facts” หลังสะท้อนปัจจัย FED ลด QE น้อยกว่าคาดไปมากแล้ว หุ้น NOK แนะนำขายทำกำไร หลัง +14% WTD ดัชนีค่าระวางเรือ (BDI) เริ่มลง หลังขึ้น 8 วันติด จะกดดันหุ้นเดินเรือระยะสั้น แต่เรามอง BDI ยังอยู่ในขาซิกแซกขึ้นอีกในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า เป็นจังหวะสะสมช่วงอ่อนตัว ชอบ TTA, PSL, JUTHA ช่วงนี้เน้นขายลดพอร์ต รอซื้อคืนแถว 1360-80 จุด โดยปัจจัยที่น่าจะกระตุ้นราคาหุ้นในระยะถัดไป หลังการปรับฐานทางเทคนิค คือ (1) ร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านลบ.เข้าสู่สภาฯ แนะนำ รับเหมา CK, STEC, SEAFCO แบงก์ SCB, TCAP ที่อยู่อาศัย LH, QH, SIRI (2) ส่งออกไทย ส.ค. คาดจะพลิกเป็นบวกครั้งแรกในรอบ 3 เดือน แนะนำ KCE, TUF, GFPT (3) การเก็งกำไรหุ้นทำปิดสิ้นงวดไตรมาส (Window Dressing) แนะนำ GLOBAL, TCAP, KKP, PS, TUF สำหรับการเทรดดิ้งสั้น ๆ เน้นหุ้นนอก SET100 อาทิ BAFS, SF, GEN, SYNTEC, SUPER
หุ้นเด่นรายวัน : SF
SF – ราคาหุ้นปัจจุบันมี downside risk ต่ำ หลังคิดเป็น PER 9.3 เท่า และ PBV 1.2 เท่าในปี 57F ขณะที่มีผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 2 ปีข้างหน้าราวปีละ 3% ส่วนแบ่งรายได้จาก “Mega Bangna” จะหนุนกำไรครึ่งปีหลัง เพราะเพิ่งเปิด พ.ค. 55 มูลค่าเหมาะสม 8.8 บ. (CONSENSUS)
ปัจจัยติดตาม
13 ก.ย.
JPตัวเลขผลผลิตภาคอุตฯ อัตราการใช้กำลังการผลิตของญี่ปุ่นใน ก.ค. (สุดท้าย)
USตัวเลขงบประมาณรายเดือนของสหรัฐฯ และยอดค้าปลีกในเดือน ส.ค.
USตัวเลขดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค.
USตัวเลขความเชื่อมั่นผู้บริโภค (U. of Michigan Conf.) ของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย. (เบื้องต้น)
16 ก.ย.
EUตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคของสหภาพยุโรปในเดือน ส.ค.
USตัวเลขผลสำรวจภาคการผลิต (Empire Manufacturing) ของสหรัฐฯ ในเดือน ก.ย.
USตัวเลขผลิตและอัตราการใช้กำลังการผลิตของสหรัฐฯ ในเดือน ส.ค.
ที่มา : Bloomberg, DB, TISCO Research
ข่าวเด่น