น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดการประชุมและแสดงปาฐกถาพิเศษ ในการประชุมประจำปี 2556 ของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยประเด็นหลักของปีนี้เป็นเรื่อง "เส้นทางประเทศไทย..สู่ประชาคมอาเซียน" ณ ห้องรอยัล จูบิลีบอลรูม อาคารชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวรายงานว่า กรอบนโยบายและทิศทางการพัฒนาของประเทศได้ให้ความสำคัญกับการเตรียมการและพัฒนา เพื่อให้ประเทศไทยมีความพร้อมในการก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ซึ่งได้กำหนดไว้ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 11 โดยรัฐบาลได้บูรณาการยุทธศาสตร์ประเทศ และแผนปฏิบัติการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเข้าด้วยกัน ดังนั้นจึงควรมีการเตรียมความพร้อม และบูรณาการแนวทางการดำเนินงานในมิติต่างๆ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพและมั่นคง
ดังนั้น การประชุมในครั้งนี้จึงมีวัตถุประสงค์หลักในการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนในสังคมได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นจากมุมมองที่หลากหลาย เกี่ยวกับสถานะความพร้อมของไทยในปัจจุบัน ร่วมกำหนดแนวทาง กลไก และกระบวนการดำเนินงาน ที่จะสร้างความเข้มแข็ง และเอกภาพสำหรับการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน
ทั้งนี้ในภาคบ่ายจะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมประชุมได้ออกความเห็นในการประชุมกลุ่มย่อยซึ่งมีด้วยกัน 6 กลุ่มคือ กลุ่มที่ 1 การเตรียมความพร้อมด้านการเงินการคลังและการค้าการลงทุน เพื่อเข้าสู่ประชาคมอาเซียน กลุ่มที่ 2 สร้างสังคมผู้ประกอบการไทย ก้าวอย่างมั่นใจสู่ประชาคมอาเซียน กลุ่มที่ 3 สร้างสรรค์ สังคมไทยสู่ประชาคมอาเซียน กลุ่มที่ 4 การเชื่อมโยงสร้างพื้นฐานสู่ อาเซียน กลุ่มที่ 5 การเตรียมความพร้อมระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดเพื่อรองรับประชาคมอาเซียน กลุ่มที่ 6 สู่ประชาคมอาเซียน : บริหาร จัดการสิ่งแวดล้อมอย่างไรให้ยั่งยืน
สาเหตุที่แบ่งการประชุมกลุ่มย่อยออกเป็น 6 กลุ่มนั้น แต่ละกลุ่มมีประเด็นสำคัญในการระดมความคิดเห็นและรับฟังข้อเสนอแนะโดยให้ทุกภาคส่วนในสังคมไทยได้มีส่วนร่วมในการให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะ และร่วมเตรียมความพร้อมในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ประชาคมอาเซียนให้ครอบคลุม 3 เสาหลักของประชาคมอาเซียน ได้แก่ ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
หัวข้อสุดท้ายคือ บริหารจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างไรให้ยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะความร่วมมือของการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ในปี 2558 ก่อให้เกิดความท้าทายและการเปลี่ยนแปลงต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคนี้ โดยเฉพาะประเทศไทยทั้งในปัจจุบันและอนาคต ไทยจึงควรเตรียมความพร้อมและสร้างความร่วมมือกับประเทศสมาชิก เพื่อบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมให้เกิดความยั่งยืน ตามแนวทางการเติบโตสีเขียว จากปัญหาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เป็นปัญหาร่วมกัน และไม่มีพรมแดน บนพื้นฐานการแบ่งปันผลประโยชน์ร่วมกันอย่างเป็นธรรม ตามบริบทการพัฒนาที่เปลี่ยนไปของการแข่งขันทางเศรษฐกิจ
ข่าวเด่น