ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์เดือนสิงหาคม 2556  ระบุว่า ในเดือนสิงหาคม 2556 ตลาดทุนโลกโดยเฉพาะในกลุ่มประเทศเกิดใหม่ (emerging market) รวมถึงตลาดทุนไทย

ได้รับผลกระทบจากแนวโน้มที่จะมีการปรับลดวงเงินนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายของสหรัฐอเมริกา และตัวเลขเศรษฐกิจจีนซึ่งมีแนวโน้มขยายตัวในอัตราลดลง ประกอบกับตัวเลขจีดีพีของไทยในไตรมาส 2/2556 เติบโตต่ำกว่าที่ธนาคารแห่งประเทศไทยคาดการณ์ไว้ และการปรับลดประมาณการในปี 2556 ลงจากปัจจัยด้านการบริโภคภาคเอกชนชะลอตัวและการส่งออกที่ฟื้นตัวช้า ส่งผลให้ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยปรับลดลงมากที่สุดเมื่อเทียบกับในภูมิภาค

โดย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2556 SET Index ปิดที่ 1,294.30 จุด ลดลง 7.01% จากสิ้นปี 2555 ด้านภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ของไทย เป็นไปในทิศทางเดียวกับตลาดหลักทรัพย์อื่นในภูมิภาค คือมีมูลค่าซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 40,003 ล้านบาท ปรับลดลง 12.93% จากเดือนก่อนหน้า และผู้ลงทุนต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ ด้านตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 54,065 สัญญา ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อนหน้า

ภาวะตลาดหลักทรัพย์ไทย ณ สิ้นเดือนสิงหาคม 2556 ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ (SET Index) ปิดที่ 1,294.30 จุด ปรับลดลง 7.01% จากสิ้นปี 2555 และลดลง 9.05% จากสิ้นเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากที่สุดในภูมิภาค

Market capitalization ของ SET และ mai ปรับตามทิศทางดัชนีตลาดหลักทรัพย์ โดยของ SET อยู่ที่ 11,286,883 ล้านบาท ลดลง 8.64% จากเดือนก่อน และลดลง 4.60% จากสิ้นปี 2555 ขณะที่ของ mai อยู่ที่ 153,002 ล้านบาท ลดลง 14.42% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 15.02% จากสิ้นปี 2555

Forward P/E ratio ของ SET อยู่ที่ 12.57 เท่า ลดลงจาก 13.51 เท่าในเดือนก่อนหน้า และต่ำกว่าระดับค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 13.08 เท่า สำหรับ mai อยู่ที่ 14.33 เท่า ลดลงจาก 16.91 เท่าในเดือนก่อนหน้า

อัตราเงินปันผลตอบแทนของ SET อยู่ที่ 3.36% สูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคที่ 2.88% และ mai อยู่ที่ 1.98%

ในเดือนสิงหาคม 2556 มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมของ SET และ mai อยู่ที่ 40,003 ล้านบาท ลดลง 12.93% จากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 36.23% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้ในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2556 มีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันรวมอยู่ที่ 56,716 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89.99% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ในเดือนสิงหาคม 2556 ผู้ลงทุนทุกกลุ่มมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันลดลงจากเดือนก่อน

ด้านสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุน พบว่า ผู้ลงทุนต่างประเทศและบริษัทหลักทรัพย์มีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายสูงขึ้น ขณะที่ผู้ลงทุนบุคคลในประเทศมีสัดส่วนมูลค่าการซื้อขายอยู่ที่ 48.18% ของมูลค่าการซื้อขายรวม ซึ่งเป็นสัดส่วนที่ต่ำสุดในรอบ 76 เดือน นับจากเดือนพฤษภาคม 2550 (เมษายน 2550 อยู่ที่ 46.14%)
    
ผู้ลงทุนต่างประเทศขายสุทธิ ใน SET และ mai รวม 39,994 ล้านบาท และในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2556 ผู้ลงทุนต่างประเทศและบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิที่ 115,837 ล้านบาท และ 10,787 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่ผู้ลงทุนสถาบันในประเทศและผู้ลงทุนบุคคลในประเทศเป็นผู้ซื้อสุทธิที่ 70,975 ล้านบาท และ 55,649 ล้านบาท ตามลำดับ

ด้านการระดมทุน บริษัทจดทะเบียน มีมูลค่าการระดมทุนรวม 17,519 ล้านบาท โดยส่วนใหญ่เป็นการระดมทุนในตลาดแรก (IPO) 13,428 ล้านบาท จากการเข้าจดทะเบียนของ 3 บริษัทใหม่ และ 1 กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่มีการระดมทุนในตลาดรอง 4,091 ล้านบาท สำหรับในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2556 มีมูลค่าการระดมทุนรวมทั้งสิ้น 203,569 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 175.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

ภาวะตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้าในเดือนสิงหาคม 2556 ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (TFEX) มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 54,065 สัญญา ลดลงเล็กน้อยจากเดือนก่อน แต่เพิ่มขึ้น 28.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในช่วงเดือนมกราคม - สิงหาคม 2556 มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน 72,409  สัญญา เพิ่มขึ้น 65.23% จากปี 2555 ซึ่งอยู่ที่ 43,823 สัญญา

50 Baht Gold Futures และ 10 Baht Gold Futures มีปริมาณสัญญาซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 49.25% และ 51.56% จากเดือนก่อนหน้าตามลำดับ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาทองคำในตลาดโลกปรับเพิ่มขึ้น