น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสส่งมอบ ต.ค. ปรับลดลง 1.17 เหรียญฯ ปิดที่ 105.42 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 1.88 เหรียญฯ ปิดที่ 108.19 เหรียญฯ - น้ำมันดิบร่วงหลังผู้นำของสหรัฐฯ รัสเซีย สหราชอาณาจักร ฝรังเศสและจีน มีข้อตกลงและเริ่มร่างมติร่วมกันในการทำลายคลังอาวุธเคมีของซีเรียภายในกลางปี 2014 สอดคล้องกับที่สหรัฐฯ และรัสเซียสามารถบรรลุข้อตกลงในเรื่องการให้ซีเรียส่งมอบอาวุธเคมีให้นานาชาติควบคุมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้นำทั้งห้าจะกลับมาพูดคุยเรื่องนี้อีกครั้งในวันนี้ - นายมูสตาฟา ซาเนลลาผู้บริหารของบริษัทน้ำมันแห่งชาติลิเบีย (NOC) ได้คาดการณ์ว่ากำลังการผลิตน้ำมันในลิเบียจะเพิ่มมาอยู่ที่ 0.7 ล้านบารเรล์ต่อวันในวันศุกร์นี้ หลังจากที่หลุมน้ำมันสองหลุมในทางตะวันตกของประเทศกลับมาดำเนินการอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังถือว่าต่ำกว่าระดับกำลังการผลิตปกติของลิเบีย ที่อยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรล์ต่อวัน - ราคาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากอุปสงค์ของน้ำมันดิบในช่วงนี้ของปีที่จะปรับลดลงจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นน้ำมัน ในขณะที่อุปทานจะเพิ่มขึ้นจากกำลังการผลิตทางทะเลเหนือจะเพิ่มขึ้นในช่วงเดือนต.ค. และการส่งออกจากแองโกล่า + ดัชนีผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ส.ค. ปรับตัวสูงขึ้น 0.1% หลังจากที่ปรับตัวเพิ่ม 0.2% ในเดือนก.ค. ซึ่งต่ำกว่าคาดที่ 0.2% อย่างไรก็ดีนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะปรับลดมาตราการอัดฉีดเงินเพียงแค่ 5-10 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ จากที่คาดที่ 20 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ในช่วงเดือนก.ค. โดยตลาดรอผลการประชุมที่สิ้นสุดวันนี้ + อย่างไรก็ตาม ZEW เปิดเผลยตัวเลขดัชนีนักลงทุนของเยอรมันในเดือนก.ย. สูงขึ้นจาก 42 ในเดือนส.ค. เป็น 49.6 ในเดือนก.ย. ส่งสัญญานถึงการพื้นตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซน โดยเศรษฐกิจของเยอรมันมีการขยายตัว 0.7% ในไตรมาสสองที่ผ่านมา และจีดีพีของยูโรโซนปรับเพิ่มขึ้น 0.3% หลังจากหดตัวมาหกไตรมาสติดต่อกัน + สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯปรับลดลงอีก 0.25 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 359 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดไว้ที่ 1.4 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณาณน้ำมันดิบคงคลังที่จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมาปรับลดลง 0.9 ล้านบาร์เรล ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากตลาดคาดการณ์ว่าโรงกลั่นจะลดกำลังการผลิตลง หลังความต้องการในภูมิภาคมีน้อยลง ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากผู้น้ำเข้าหลักอินโดนิเซียมีแผนที่จะเพิ่มสัดส่วนการผสมน้ำมันไบโอดีเซลเพิ่มขึ้น ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง ไทยออยล์คาดว่าราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ เวสต์เท็กซัสจะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ส่วนเบรนท์ที่กรอบ 105-111 เหรียญฯ ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเสร็จสิ้นในวันนี้ และยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ ในวันนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ วันพุธ: ยอดขอสร้างบ้านใหม่สหรัฐฯ และการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ วันสุดท้าย วันพฤหัส: ยอดผู้ขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ผลสำรวจดัชนีภาคอุตสาหกรรมของธนาคารกลางฟิลาเดลเฟีย ยอดขายบ้านมือสองสหรัฐฯ วันศุกร์: ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหภาพยุโรป สหรัฐฯ ปัจจัยที่น่าจับตามอง - ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันที่ 17 - 18 ก.ย. นี้ ว่าทางธนาคารฯ จะประกาศลดวงเงินช่วยเหลือของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ (QE) หรือไม่ ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าหากมีการลด QE ในตอนนี้ อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้ -จับตาว่าการเจรจาทางการฑูตของสหรัฐฯ และซีเรียจะปฏิบัติตามต่อข้อเสนอของรัสเซียที่จะยอมมอบอาวุธเคมีให้องค์กรนานาชาติควบคุมดูแลหรือไม่ อย่างไรก็ดี หากการเจรจาทางการฑูตไม่สำเร็จ สหรัฐฯ ก็จะนำวิธีการแทรกแซงทางทหารกลับมาใช้อีกครั้งหนึ่ง - จับตาการส่งออกน้ำมันของลิเบียว่าจะกลับมาอยู่ในระดับเดิมได้หรือไม่ หลังล่าสุดทางการลิเบียพยายามเข้าหารือกับตัวแทนของกลุ่มผุ้ประท้วงแล้วก็ตาม อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ ออกมา - ประธานาธิบดีฮัสซัน โรฮานี ของอิหร่านจะเข้าร่วมการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ในวันที่ 17 ก.ย. นี้ และคาดว่าจะนำเรื่องโครงการพัฒนานิวเคลียร์กลับมาหารือกับชาติตะวันตกอีกครั้ง - การปิดซ่อมบำรุงท่าเรือส่งออกของอิรักในเดือน ก.ย. ที่ทำให้การส่งออกลดลง 300,000 บาร์เรลต่อวัน เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้อุปทานน้ำมันดิบในภูมิภาคตึงตัวขึ้น อย่างไรก็ดี การผลิตน้ำมันดิบจากบริเวณทะเลเหนือคาดว่าจะปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.84 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ต.ค. จาก 1.7 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.ย.
ข่าวเด่น