วันนี้ (23 ก.ย. 56) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในรายการฟ้าวันใหม่ ทาง Blue Sky Channel
กรณี พ.ร.บ. กู้เงิน 2 ล้านล้านผ่านการพิจารณาขอวสภาฯว่า สิ่งที่เราต้องการที่จะแสดงให้เห็นก็คือว่า การกระทำของรัฐบาลครั้งนี้มันมีปัญหาเยอะ ปัญหาสำคัญก็มีตั้งแต่เรื่องที่ว่าไม่โปร่งใส ขัดต่อเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ เหมือนกับเป็นที่ทราบกันระดับหนึ่งว่า เราได้นำเสนอในมุมมองนี้ไปแล้ว
แต่ประเด็นสำคัญก็คือว่า การทำครั้งนี้มันไม่ใช่การบริหารที่ดี เพราะว่าเราจะชี้ให้เห็นว่า 1. เราสามารถที่จะลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานได้ดีกว่านี้ ด้วยการทำในระบบงบประมาณ นั่นส่วนหนึ่ง
ประการที่ 2 การดำเนินการ 2 ล้านล้านนี้ เราสามารถทำโดยระบบงบประมาณ บวกกับโครงการบางโครงการนั้นควรจะเป็นในรูปแบบของลักษณะของการร่วมทุน แล้วถ้าเกิดเราใช้เงิน 2 ล้านล้านนี้ในระบบงบประมาณ 7 ปี คือสามารถทำได้นี้ เราก็อยากจะเสนอต่อให้เห็นว่า จริงๆ แล้วมันไม่มีความจำเป็นที่จะบอกว่า ต้องไปลงทุนเฉพาะเรื่องของการคมนาคมขนส่ง ประเทศนี้ต้องการโครงสร้างพื้นฐานด้านอื่นๆ อีก ทั้งด้านการศึกษา ทั้งด้านสาธารณสุข ทั้งระบบน้ำ ซึ่งวันนี้ก็จะชี้ให้เห็นว่ารายละเอียด ถ้าเกิดพรรคประชาธิปัตย์มีโอกาสใช้เงิน 2 ล้านล้านนี้ เราจะทำอย่างไร
แต่ว่าสิ่งที่มันจะเป็นตัวตอบโจทย์ ก็คือมันจะบอกว่า ถ้าเราทำวิธีนี้ นอกจากความโปร่งใสแล้ว เสถียรภาพ วินัยทางการเงินการคลัง มันจะมีความชัดเจนกว่า ตอบโจทย์ความต้องการของการพัฒนาประเทศได้ครอบคลุม ทั่วถึงกว่า ประชาชนที่จะได้ประโยชน์ แล้วก็ได้โอกาสจากตรงนี้ จะครบถ้วนมากกว่า แล้วก็มันก็เป็นทั้งความยุติธรรม เป็นทั้งความโปร่งใส แล้วก็เป็นในเรื่องของประสิทธิภาพ และวินัย”
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราควรจะเอางานเป็นตัวตั้ง ถ้าบอกว่า 7 ปีข้างหน้าเราควรจะลงทุนเรื่องอะไร ประชาธิปัตย์ก็บอกว่า เราต้องลงทุนคมนาคมขนส่งแน่นอน แต่ต้องลงทุนเรื่องน้ำด้วย เรื่องการศึกษาด้วย เรื่องสาธารณสุขด้วย แล้วก็มองว่าการลงทุนในทุกด้านอย่างนี้ไม่ใช่เฉพาะด้านคมนาคมขนส่ง สามารถทำอยู่ในวงเงิน 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาลได้ บวกกับการไปใช้โครงการ PPP ที่จะเข้ามาทำในเรื่องของรถไฟความเร็วสูง
และ 2 ล้านล้านที่เป็นเงินของรัฐบาลนี้ แทนที่จะไปออกเป็นกฎหมายเงินกู้ ก็สามารถบริหารจัดการอยู่ในภายในระบบของงบประมาณได้ ไม่ล่าช้า แล้วก็ไม่ได้มีปัญหาในเรื่องของกรอบวินัยทางการเงินการคลัง นี่คือสิ่งที่ต้องการจะนำเสนอ”
เมื่อถามถึงกรณีพรรคฯเตรียมเปิดตัว “แผนไทยเข้มแข็ง 2020” ทั้งที่ฝ่ายรัฐบาลก็ใช้ชื่อนี้มาเป็นประเด็นโจมตี นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า “ที่จริงแล้ว ไทยเข้มแข็งนี้ คือจะโจมตีกันนั้น มันก็เป็นเรื่องวาทกรรมนะครับ แต่ว่าเรื่องของ ไทยเข้มแข็งนั้น ก็คือเป้าหมาย เราต้องการให้ประเทศไทย คนไทย มีความเข้มแข็งจริงๆ และความเข้มแข็งนี้ก็ต้องมีทั้งโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพ ทั้งความพร้อมของคน ทั้งความพร้อมของระบบ แล้วก็การใช้เงินไทยเข้มแข็งที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่า 1. ทำให้เศรษฐกิจฟื้น 2. ไม่ได้ทำให้เรามีปัญหาวินัยการเงินการคลัง เพราะสามารถจะทำให้หนี้สาธารณะอยู่ภายใต้การควบคุม และเริ่มลดลงได้ และ 3. ใครเดินทางไปหลายจังหวัดขณะนี้จะเห็นงานของไทยเข้มแข็งที่เกิดขึ้น ส่วนบางโครงการที่มีปัญหานั้น หลายโครงการมีปัญหามาเกิดขึ้นจากการบริหารในรัฐบาลชุดนี้นะครับ มาเกิดขึ้นภายหลังจากรัฐบาลที่แล้วพ้นมาแล้ว”
ข่าวเด่น