นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยในหลายพื้นที่ขณะนี้ว่า มีความรุนแรงน้อยกว่าเหตุการณ์ในปี 54 ถึง 3 เท่า โดยในปีนี้ปริมาณน้ำโดยรวมมีประมาณ 10,000 ล้านลูกบาศก์เมตร
ขณะที่ในปี 54 มีปริมาณน้ำถึง 25,000-30,000 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งปริมาณน้ำที่มีอยู่ในหลายพื้นที่ขณะนี้เกิดจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักกว่าปกติ แต่ไม่ได้เกิดจากน้ำหลาก ซึ่งเชื่อว่ารัฐบาลจะสามารถควบคุมสถานการณ์ได้
ส่วนอุทกภัยในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเฉพาะ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ที่มีปริมาณน้ำฝนตกหนักที่สุดในรอบ 26 ปี สาเหตุเกิดจากร่องมรสุมที่พาดผ่านอยู่ในพื้นที่เป็นเวลานาน รวมถึงอิทธิพลของพายุดีเปรสชั่น ประกอบกับสภาพพื้นที่ที่เป็นภูเขาสูงชัน ทำให้เมื่อมีฝนตกหนัก ปริมาณน้ำฝนจำนวนมากจะไหลเข้าท่วมในเขตเมือง หากไม่มีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากในช่วง 3 วันนี้ สถานการณ์ต่างๆ จะค่อยๆดีขึ้นและกลับสู่ภาวะปกติ ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นเพราะตัวเมืองเป็นที่ราบลุ่ม น้ำถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนหนึ่งไปประเทศกัมพูชา อีกส่วนไหลเข้าประเทศไทย แต่ด้วยบริเวณดังกล่าวมีแม่น้ำสายเล็กเพียง 3 สาย ประกอบกับก่อสร้างบ้านเรือนริมแม่น้ำ เมื่อน้ำมาจำนวนมากจึงไหลเข้าเมือง โดยจะใช้แม่น้ำปราจีนบุรีเป็นแม่น้ำสายหลักให้เร่งระบายน้ำลงแม่น้ำบางปะกงเพื่อออกสู่ทะเล
นายปลอดประสพ ยังกล่าวถึง กรณีที่นายปราโมทย์ ไม้กลัด อดีตอธิบดีกรมชลประทาน ออกมาคัดค้านแนวคิดการสร้างเขื่อนแม่วงก์ว่า แนวคิดดังกล่าวเป็นแนวคิดของนายปราโมทย์ ที่เคยเสนอไว้เมื่อครั้งที่ตนดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ และตนก็ได้สนับสนุนแนวทางนี้ พร้อมย้ำว่าจะยึดเอาเสียงส่วนใหญ่และเสียงของคนในพื้นที่เป็นหลัก
ส่วนข้อเสนอของผู้ที่เห็นต่างนั้นตนพร้อมจะรับฟัง อย่างไรก็ดี คงไม่จำเป็นต้องลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมด้วยตัวเอง เนื่องจากมีสถาบันการศึกษาที่ทำการสำรวจในเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว
ข่าวเด่น