|
|
|
|
|
|
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับเพิ่มขึ้น 0.48 เหรียญฯ ปิดที่ 108.64 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 0.46 เหรียญฯ ปิดที่ 103.13 เหรียญฯ
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลง เนื่องจากนักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานในตะวันออกกลาง หลังจากนายบารัค โอบามา เผยว่าจะแก้ปัญหานิวเคลียร์อิหร่านอย่างสันติ โดยแสดงความพร้อมที่จะจัดการเจรจากับอิหร่าน ภายใต้การนำของนายฮัสซาน รูฮานี ประธานาธิบดีคนใหม่ของอิหร่าน
- ท่าเรือส่งน้ำมันดิบ Marsa al Hariga ซึ่งกำลังการผลิตอยู่ที่ 110,000 บาร์เรลต่อวัน ในลิเบียจะกลับมาดำเนินการส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังหยุดไปจากเหตุการณ์ประท้วง นอกจากนี้กำลังการผลิตน้ำมันดิบในลิเบียยังเพิ่มขึ้นเป็น 620,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งอยู่ในระดับ 40% ของกำลังการผลิตที่ผลิตได้ก่อนเกิดสงคราม
- ดัชนีราคาบ้านสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค.เพิ่มขึ้น 0.6% ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นที่น้อยกว่าเดือนมิ.ย.ที่เพิ่มขึ้น 0.9% และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8%
- ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ในเดือน ก.ค. ปรับลดลงมาอยู่ที่ 79.7 จากระดับ 81.8 ในเดือนก่อนหน้า และน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลงเป็น 79.9
- สถาบันปิโตรเลียมของสหรัฐฯ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐฯปรับลดลง 0.54 ล้านบาร์เรลมาอยู่ที่ระดับ 359.2 ล้านบาร์เรล ต่ำกว่าที่คาดไว้ว่าจะลดลง 1.1 ล้านบาร์เรล ในขณะที่ปริมาณาณน้ำมันดิบคงคลังที่จุดส่งมอบคุชชิ่ง โอกลาโฮมาปรับลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล
- แหล่งผลิตน้ำมันดิบ Rumailia ทางตอนใต้ของอิรักกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้อีกครั้งที่ระดับ 1.35 ล้านบาร์เรลต่อวัน หลังกำลังการผลิตลดลงไปอยู่ที่ 870,000 บาร์เรลต่อวันในสัปดาห์ก่อนหน้าเนื่องจากปิดซ่อมรอยรั่วของท่อ ส่งผลให้มีปริมาณน้ำมันดิบส่งมายังท่าเรือเพิ่มขึ้นเป็น 2.33 ล้านบาร์เรลต่อวัน อย่างไรก็ตาม การส่งออกน้ำมันดิบของอิรักในเดือนนี้คาดว่าจะยังคงถูกจำกัดอยู่ที่ระดับ 1.74 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากท่าเรือส่งออกบางส่วนยังปิดซ่อมบำรุง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากมีความต้องการจากสิงคโปร์เพิ่มมากขึ้น
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับลดลงน้อยกว่าน้ำมันดิบดูไบ โดยได้รับแรงหนุนจากอุปทานที่ลดลง จากการที่โรงกลั่นในภูมิภาคลดกำลังการผลิตลง อีกทั้งยังมีความต้องการนำเข้าจากศรีลังกาและเวียดนามอย่างต่อเนื่อง
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดว่าราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเวสต์เท็กซัส ขณะที่เบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ ติดตามยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพุธ: ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน และยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ
วันพฤหัส: ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขาย และจีดีพีไตรมาส 2/2556 สหรัฐฯ
วันศุกร์: -
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- จับตาการประกาศจีดีพีไตรมาส 2/56 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศครั้งสุดท้ายในสัปดาห์นี้ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ดีกว่าประมาณการครั้งที่ 2 ที่ขยายตัวอยู่ที่ 2.5%
- จับตาการจัดตั้งรัฐบาลผสมของนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 ของเยอรมนีหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 ก.ย. มาอย่างท่วมท้น พร้อมจับตาว่าแผนการช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปที่กำลังประสบปัญหาหนี้จะยังคงอยู่หรือไม่ท่ามกลางการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่นี้
- ติดตามการเจรจาหาทางออกให้กับปัญหานิวเคลียร์อิหร่านที่ดูเหมือนจะมีท่าทีที่ดีขึ้นและอาจส่งผลให้มาตรการการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของชาติตะวันตกมีผลกระทบลดลง
- ความคืบหน้ากรณีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย โดยล่าสุด 5 ชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติร่วมร่างมติการทำลายคลังอาวุธเคมีในซีเรีย นอกจากนี้ยูเอ็นอาจมีการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
25 ก.ย. 2556 เวลา : 11:20:48
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น