ตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปปิดลบเมื่อคืนนี้ (25 กันยายน 2556) โดยดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,273.26 จุด ลดลง 61.33 จุด หรือ -0.40% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,692.77 จุด ลดลง 4.65 จุด หรือ -0.27% ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,761.10 จุด ลดลง 7.15 จุด หรือ -0.19%
ส่วนตลาดหุ้นยุโรป ดัชนี Stoxx 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 313.02 จุด ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดวันทำการล่าสุดที่ 8,665.63 จุด เพิ่มขึ้น 1.03 จุด, +0.01% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดวันทำการล่าสุดที่ 4,195.35 จุด ลดลง 0.26 จุด, -0.01% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดวันทำการล่าสุดที่ 6,551.53 จุด ลดลง 19.93 จุด, -0.30%
ทั้งนี้ตลาดหุ้นนิวยอร์กและยุโรปร่วงลง เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาด้านการคลังของสหรัฐอาจจะนำไปสู่การปิดหน่วยงานของรัฐ โดยนักลงทุนกำลังจับตาดูการอภิปรายเรื่องเพดานหนี้ของสหรัฐ ซึ่งนักวิเคราะห์กังวลว่าในสัปดาห์นี้สภาคองเกรสสหรัฐอาจเผชิญกับสถานการณ์ที่ยุ่งยาก ซึ่งการที่หน่วยงานรัฐบาลของสหรัฐอาจจะต้องปิดทำการในวันที่ 1 ตุลาคม หรืออาจจะเปิดทำการได้ต่อไปนั้น ขึ้นอยู่กับผลการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรส
ทั้งนี้ นายจาค็อบ ลิว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวกับสภาคองเกรสกล่าวว่า นักลงทุนต่างพากันวิตกกังวลว่าความขัดแย้งเกี่ยวกับการเพิ่มเพดานหนี้ของสหรัฐนั้น จะบานปลายมากกว่าที่ควรจะเป็น พร้อมระบุว่า หนี้สินของรัฐบาลกลางจะชนเพดานที่ระดับ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ภายในกลางเดือนต.ค.นี้
สหรัฐกำลังจะเผชิญกับ 2 เส้นตายสำคัญที่ใกล้เข้ามา ซึ่งเส้นตายแรกก็คือการจัดหางบประมาณของรัฐบาลในปีงบประมาณใหม่ที่กำลังจะเริ่มขึ้นในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ และส่วนอีกเส้นตายหนึ่งจะเกี่ยวข้องกับเพดาหนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังสหรัฐระบุว่าจำเป็นที่จะต้องเพิ่มเพดานหนี้ภายในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้
ข่าวเด่น