|
|
|
|
|
|
น้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 0.32 เหรียญฯ ปิดที่ 108.32 เหรียญฯ ขณะที่เวสต์เท็กซัสส่งมอบ พ.ย. ปรับลดลง 0.47 เหรียญฯ ปิดที่ 102.66 เหรียญฯ
- ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลง เนื่องจากทางอิหร่านออกมาแสดงท่าทีว่าต้องการแก้ปัญหานิวเคลียร์ที่มีมานานโดยเร็ว ซึ่งทางอิหร่านได้ตกลงที่จะร่วมประชุมกับทางสหรัฐฯ อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย จีน และ เยอรมนีในวันพฤหัสบดีนี้
- ประกอบกับอุปทานของน้ำมันดิบที่ปรับตัวสูงขึ้น จากอิรักหลังซ่อมรอยรั่วของท่อส่งน้ำมันดิบแล้วเสร็จจากแหล่ง Rumaillia และ ลิเบียที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นหลังท่าเรือส่งน้ำมันดิบ Marsa al Hariga กลับมาดำเนินการส่งออกน้ำมันดิบอีกครั้งในสัปดาห์นี้ หลังหยุดไปจากเหตุการณ์ประท้วง ประกอบกับทางซาอุดิอาระเบียก็ออกมาประกาศว่าพร้อมที่จะปรับการส่งออกเพิ่มเติมเต็มในส่วนที่หายไป
- สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังประจำสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 20 ก.ย. 56 ปรับเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรลจากสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังมีการปรับลดลงติดต่อกัน โดยล่าสุดอยู่ที่ 358 ล้านบาร์เรล ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับลดลงที่ 1.1 ล้านบาร์เรล แต่อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่บริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ปรับลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 12 โดยล่าสุดปรัลดลง 0.4 ล้านบาร์เรล มาอยู่ที่ 32.9 ล้านบาร์เรล แต่เป็นการปรับลดลงในปริมาณที่ลดลงจาก 9 สัปดาห์แรกที่ปรับลดลงเฉลี่ย 1.7 ล้านบาร์เรล.
+ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน สหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับลดลง 0.5 % นอกจากนี้ ยอดขายบ้านใหม่สหรัฐฯ ในเดือน ส.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 7.9%มาอยู่ที่ 421,000 หลัง
ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคาดว่ายังมีปริมาณการส่งออกน้ำมันเบนซินจากโรงกลั่นในภูมิภาคระดับสูงต่อในช่วงต.ค. ประกอบกับความต้องการในภูมิภาคที่ไม่แข็งแกร็ง
ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากโรงกลั่นในภูมิภาคลดกำลังการผลิตลง ส่งผลให้อุปทานตึงตัว ประกอบกับมีความต้องการจากอินโดดีเซีย แอฟริกา และ เวียดนาม
ทิศทางราคาน้ำมันดิบในระยะสั้นและปัจจัยที่น่าจับตามอง
ไทยออยล์คาดว่าราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวอยู่ที่กรอบ 102-108 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล สำหรับน้ำมันเวสต์เท็กซัส ขณะที่เบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญฯ ติดตามยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขาย และจีดีพีไตรมาส 2/2556 สหรัฐฯที่จะประกาศในวันนี้
ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่
วันพฤหัส: ยอดขอรับสิทธิประโยชน์จากการว่างงาน ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขาย และจีดีพีไตรมาส 2/2556 สหรัฐฯ
วันศุกร์: -
ปัจจัยที่น่าจับตามอง
- จับตาการประกาศจีดีพีไตรมาส 2/56 ของสหรัฐฯ ที่จะประกาศครั้งสุดท้ายในสัปดาห์นี้ซึ่งตลาดคาดว่าจะขยายตัวที่ 2.7% ดีกว่าประมาณการครั้งที่ 2 ที่ขยายตัวอยู่ที่ 2.5%
- จับตาการจัดตั้งรัฐบาลผสมของนางแองเจลา เมอร์เคล นายกรัฐมนตรีสมัยที่ 3 ของเยอรมนีหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 22 ก.ย. มาอย่างท่วมท้น พร้อมจับตาว่าแผนการช่วยเหลือทางการเงินให้แก่ประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรปที่กำลังประสบปัญหาหนี้จะยังคงอยู่หรือไม่ท่ามกลางการทำงานของรัฐบาลชุดใหม่นี้
- ติดตามการเจรจาหาทางออกให้กับปัญหานิวเคลียร์อิหร่านที่ดูเหมือนจะมีท่าทีที่ดีขึ้นและอาจส่งผลให้มาตรการการคว่ำบาตรการนำเข้าน้ำมันดิบจากอิหร่านของชาติตะวันตกมีผลกระทบลดลง
- ความคืบหน้ากรณีการใช้อาวุธเคมีในซีเรีย โดยล่าสุด 5 ชาติสมาชิกของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติร่วมร่างมติการทำลายคลังอาวุธเคมีในซีเรีย นอกจากนี้ยูเอ็นอาจมีการเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้งเพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม
|
บันทึกโดย : Adminวันที่ :
26 ก.ย. 2556 เวลา : 12:01:49
|
|
|
|
|
ข่าวเด่น