นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 17 กันยายน 2556 ถึงปัจจุบัน เกิดสถานการณ์อุทกภัย รวม 29 จังหวัด 191 อำเภอ 1,078 ตำบล 7,962 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 628,766 ครัวเรือน 2,108,977คน
บ้านเรือนเสียหาย 6,900 หลัง พื้นที่การเกษตรเสียหาย 1,146,237 ไร่ ถนน 2,310 สาย สะพาน145 แห่ง ประกอบด้วย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 จังหวัด ได้แก่ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี บุรีรัมย์ นครราชสีมา อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ยโสธร และมุกดาหาร , ภาคเหนือ 6 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก พิจิตร กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ และอุทัยธานี, ภาคกลาง 8 จังหวัด ได้แก่ ลพบุรี สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ กาญจนบุรี ชัยนาท พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสุพรรณบุรี,ภาคตะวันออก 4 จังหวัด ได้แก่ ปราจีนบุรี สระแก้ว นครนายก และฉะเชิงเทรา และภาคใต้ 1 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร
ขณะนี้สถานการณ์คลี่คลายแล้ว 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี ชุมพร ประจวบคีรีขันธ์ นครราชสีมา และกาฬสินธุ์ ยังคงมีสถานการณ์อุทกภัย 24 จังหวัด แยกเป็น น้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมขัง 21จังหวัด 170 อำเภอ และแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำท่าจีนล้นตลิ่ง 3 จังหวัด 15 อำเภอ ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสุพรรณบุรี แนวโน้มสถานการณ์ในภาพรวมพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วมมีปริมาณฝนลดลง ส่งผลให้หลายจังหวัดสถานการณ์อุทกภัยเริ่มคลี่คลาย
ในขณะที่ยังต้องเฝ้าระวังชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมฝั่งแม่น้ำ พื้นที่ลุ่มการเกษตร และพื้นที่บริเวณท้ายเขื่อน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากการระบายน้ำและปล่อยน้ำออกจากเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ
พร้อมกันนี้ ได้ประสานให้จังหวัดที่มีปัญหาน้ำท่วมขังวางแผนการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำฝน และสภาพภูมิประเทศของพื้นที่ โดยเร่งระบายน้ำไปยังพื้นที่รองรับน้ำที่เหมาะสม โดยผันน้ำลงสู่คลองชลประทาน ลำคลอง แม่น้ำตามธรรมชาติ เพื่อมิให้กระทบต่อพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่การเกษตร รวมทั้งชี้แจงมาตรการการบริหารจัดการน้ำและแนวทางการช่วยเหลือให้ประชาชนในพื้นที่ทราบและให้ความร่วมมือสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้การบริหารจัดการอุทกภัยมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ข่าวเด่น