สภาวะตลาดวันที่ 26 กันยายน 2556 ราคาทองคำแกว่งตัวในกรอบที่ระดับ 1,329.48-1,338.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขณะที่โกลด์ฟิวเจอร์ส GFV13 อยู่ที่ 19,840 บาท โดยราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 140 บาท จากวันก่อนหน้าที่ระดับ 19,700 บาท ขณะที่ซิวเวอร์ฟิวเจอร์ SVV13 อยู่ที่ 717 บาท โดยราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้าที่ระดับ 717 บาท
(หมายเหตุ: ข้อมูลนี้จัดทำขึ้น ณ เวลา 15.34 น.ของวันที่ 26/09/13)ออกมา คือ ออกมา คือ

 แนวโน้มวันที่ 27 กันยายน 2556
ความวิตกเกี่ยวกับเงินงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐที่จะหมดลงได้เป็นแรงหนุนให้มีการเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย เนื่องจากนักลงทุนไม่แน่ใจว่าการเจรจางบประมาณของสหรัฐจะประสบผลสำเร็จมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้ผู้นำสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่มาจากพรรครีพับลิกันระบุว่า อาจจะมีการลงคะแนนเสียงต่อร่างกฎหมายปรับขึ้นเพดานหนี้ในวันศุกร์นี้ ในขณะที่ความไม่แน่นอนดังกล่าวส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง ทั้งนี้ นักการเมืองสหรัฐต้องบรรลุข้อตกลงด้านงบประมาณให้ได้ก่อนวันจันทร์ที่ 30 กันยายนนี้ มิฉะนั้นหน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐอาจต้องปิดทำการตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม ประกอบกับ สำนักงานงบประมาณสภาคองเกรส (CBO) ได้เปิดเผยรายงานคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเริ่มผิดนัดชำระหนี้ระหว่าง วันที่ 22-31 ตุลาคม ซึ่งส่งผลมีความใกล้เคียงกับการคาดการณ์ที่ว่ารัฐบาลสหรัฐอาจเริ่มผิดนัดชำระหนี้ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมจนถึงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยรัฐมนตรีคลังสหรัฐ เรียกร้องให้สภาคองเกรสปรับเพิ่มเพดานหนี้จากระดับ 16.7 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน อ

ย่างไรก็ตามการขยับขึ้นของราคาทองคำยังถูกชะลอลง เนื่องจากราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านบ่งชี้ว่า การเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่านอาจประสบความก้าวหน้า และราคาน้ำมันได้รับแรงกดดันจากปริมาณอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในอิรักและลิเบีย

วายแอลจีอยากชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำมักจะเคลื่อนไหวตามกระแสข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน เพราะประเด็นข่าวเหล่านี้มักจะชี้นำราคาทองคำค่อนข้างมาก เบื้องต้นวายแอลจียังคงให้จับตาราคาทองคำบริเวณ 1,348-1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคายังไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือโซนนี้ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะค่อยๆอ่อนตัวลงมา โดยประเมินแนวรับไว้ในบริเวณ 1,318-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์
        
 กลยุทธ์การลงทุน วายแอลจีแนะนำ สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือ แนะนำให้ลงทุนระยะสั้นโดยรอซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงไปบริเวณแนวรับที่ 1,318-1,309 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้น โดยราคาทองคำมีลักษณะการแกว่งตัวแบบ Sideway โดยมีการทรงตัวรักษาระดับไว้ น่าจะพอทำให้ในระยะสั้นนี้ราคาจะเคลื่อนไหวในกรอบ โดยหากราคาทองคำไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านได้อย่างแข็งแกร่ง นักลงทุนยังต้องระมัดระวังแรงขายทางเทคนิคและนักลงทุนควรตั้งจุดตัดขาดทุนหากราคาหลุดบริเวณแนวรับ เพื่อลดความเสียหายของพอร์ทการลงทุน ในขณะที่นักลงทุนที่มีทองคำในมือ ให้ขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวหรือบริเวณแนวต้าน 1,348 หรือ 1,350 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แล้วรอไปซื้อคืนบริเวณแนวรับสำคัญ

          ทองคำแท่ง (96.50%)
          แนวรับ 1,318 (19,420บาท) 1,309 (19,290บาท) 1,300 (19,160บาท)
          แนวต้าน 1,348 (19,870บาท) 1,360 (20,050บาท) 1,369 (20,180บาท)

          GOLD FUTURES (GFV13)
          แนวรับ 1,318 (19,550บาท) 1,309 (19,420บาท) 1,300 (19,290บาท)
          แนวต้าน 1,348 (20,000บาท) 1,360 (20,180บาท) 1,369 (20,310บาท)

          SILVER FUTURES (SVV13)
          แนวรับ 21.70 (712 บาท) 21.45 (704 บาท) 21.10 (693 บาท)
          แนวต้าน 22.15 (726 บาท) 22.45 (735 บาท) 22.80 (746 บาท)