วันนี้ (27 ก.ย.) นายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะเรียกทีมกฎหมายหารือเพื่อหาทางออกเรื่องการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ วาระ 3 หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องไว้พิจารณาว่า นายกฯไม่ได้เรียกทีมกฎหมายมาหารือ
เพราะฝ่ายกฎหมายหารือและศึกษาข้อกฎหมายต่าง ๆ ตามปกติอยู่แล้ว และขณะนี้มีความเห็นที่หลากหลายเกี่ยวกับข้อกฎหมาย แต่ถ้าเรายึดตามหลักประชาธิปไตยที่มี 3 เสาหลักคือ ฝ่ายบริหาร นิติบัญญัติ และตุลาการ เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญมีบทบัญญัติที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญชัดเจนว่าเป็นอำนาจของรัฐสภา และเมื่อรัฐสภาดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่าน 3 วาระ มีการลงมติเรียบร้อยแล้วตามรัฐธรรมนูญมาตรา 291 (7) บัญญัติไว้ว่าให้นายกรัฐมนตรีนำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย ภายใน 20 วัน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นก็ต้องรอดูว่าในวันที่ 28 ก.ย.นี้ สภาฯ จะมีมติออกมาอย่างไร
"รัฐบาลจะไม่ถ่วงเวลา เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้แล้ว ถึงอย่างไรก็ต้องมีการทูลเกล้าฯ นายก ฯไม่สามารถกระทำขัดรัฐธรรมนูญได้ หากการโหวตลงมติในวันที่ 28 ก.ย. ทุกอย่างผ่านตามกระบวนการ นายกฯก็พร้อมที่จะทำตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากนำร่างรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯ ทุกคนต่างทำหน้าที่ อย่าเอามาปนกันระหว่างอำนาจ 3 เสาหลัก จากนั้นถ้ามีผู้เห็นแย้งอย่างไร หรือศาลรัฐธรรมนูญจะตัดสินออกมาอย่างไรก็เป็นเรื่องของศาลรัฐธรรมนูญ เมื่อมีการวินิจฉัยหรือตีความออกมาอย่างไรเราก็พร้อมปฏิบัติตาม" เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าว
เมื่อถามว่าหากนายกรัฐมนตรีนำร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญขึ้นทูลเกล้าฯไปแล้ว แต่ศาลรัฐธรรมนูญตัดสินว่าเป็นการขัดรัฐธรรมนูญจะเกิดอะไรขึ้น นายสุรนันทน์ กล่าวว่า รัฐบาลทำตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญทุกประการ เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญต้องตีความว่า สิ่งไหนทำได้หรือทำไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า สิ่งที่ทำนั้นผิด
ข่าวเด่น