ข่าว เบรกกิ้งนิวส์
ไทยออยล์คาด ราคาน้ำมันสัปดาห์นี้เคลื่อนไหวกรอบเดิม จับตา ศก.สหรัฐฯ


บมจ.ไทยออยล์ วิเคราะห์สถานการณ์น้ำมันประจำสัปดาห์ โดยระบุว่า  น้ำมันดิบเคลื่อนไหวในกรอบเดิม จับตาความสามารถชำระหนี้ของสหรัฐฯ และยุโรป ท่ามกลางอุปทานน้ำมันดิบที่กลับมา  โดยไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 106-112 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 102-108 เหรียญฯ

 
แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 30 ก.ย. - 4 ต.ค. 56)
ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้คาดว่าจะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบเดิม โดยได้รับแรงกดดันจากปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะครบกำหนดในวันที่ 17 ต.ค. นี้ ปัญหาเศรษฐกิจในประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรีซ ฝรั่งเศส และอิตาลี รวมถึงอุปทานน้ำมันดิบจากลิเบียและอิรักที่เริ่มกลับมาสู่ตลาด นอกจากนี้การประชุมธนาคารกลางยุโรปในสัปดาห์นี้ยังคงเป็นที่น่าจับตามองว่าทางธนาคารกลางฯ จะมีมุมมองและแนวทางด้านนโยบายเศรษฐกิจอย่างไร 
 
ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:
•การแก้ปัญหาเพดานหนี้สหรัฐฯ ที่จะมีกำหนดเส้นตายภายในวันที่ 17 ต.ค.นี้ หากสหรัฐฯ ยังไม่สามารถดำเนินมาตรการพิเศษใดๆ อาจส่งผลให้สหรัฐฯ ต้องผิดนัดชำระหนี้ที่จะครบกำหนด เนื่องจากยังขาดเงินชำระหนี้อีกราว 30,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ และพรรครีพับลิกันกำลังหารือในกรณีดังกล่าว แต่ยังไม่มีท่าทีที่ชัดเจนออกมา
 
•สภาวะทางการคลังและการเงินของสหภาพยุโรปที่ยังคงน่าเป็นห่วง หลังกรีซมีท่าทีว่าอาจต้องขอรับความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเป็นรอบที่ 3 ในวงเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านดอลลาร์ โดยในสัปดาห์ก่อนหน้า เจ้าหน้าที่ระหว่างประเทศได้เข้าตรวจสอบมาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจของกรีซ ว่าเป็นไปตามเงื่อนไขหรือไม่ ล่าสุดบรรดาลูกจ้างภาครัฐได้ประท้วงต่อต้านมาตรการรัดเข็มขัดที่เกิดขึ้น 
 
•นอกจากนี้ฝรั่งเศสเองได้มีการประกาศปรับลดงบประมาณประจำปี 2557 เนื่องจากหนี้สาธารณะของประเทศได้พุ่งสูงขึ้นมากกว่าคาดการณ์ ขณะเดียวกันภาวะหนี้ในอิตาลีเริ่มน่าเป็นห่วงมากขึ้น หลังการประชุมเพื่อหารือเรื่องงบประมาณการเงินมูลค่า 3 พันล้านยูโร (4.06 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ) ล้มเหลว ซึ่งอาจเป็นเหตุให้อิตาลีมีเงินไม่พอที่จะจ่ายหนี้
 
•การประชุมธนาคารกลางสหภาพยุโรป ที่จะมีขึ้นในวันที่ 2 ต.ค. นี้ ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ว่าจะมีมุมมองต่อเศรษฐกิจและนโยบายทางเศรษฐกิจสหภาพยุโรปอย่างไร เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจของประเทศสมาชิกหลายประเทศยังคงเป็นที่น่ากังวล
 
•จับตาอุปทานน้ำมันดิบของลิเบียและอิรัก ว่าจะกลับมาเพิ่มขึ้นได้ตามคาดการณ์หรือไม่ ภายหลังสถานการณ์ความตึงเครียดในลิเบียคลี่คลายลงบ้างแล้ว ตลอดจนอิรักเองที่สามารถซ่อมท่อขนส่งน้ำมันได้สำเร็จ ส่งผลให้มีน้ำมันดิบบางส่วนกลับออกสู่ตลาดได้
 
•ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในสัปดาห์นี้ได้แก่ ดัชนีภาคการผลิต ดัชนีภาคการบริการ การจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราว่างงานสหรัฐฯ และดัชนีราคาผู้บริโภค ดัชนีการผลิต อัตราการว่างงาน ดัชนีภาคบริการและยอดค้าปลีกสหภาพยุโรป รวมไปถึงดัชนีราคาผู้ผลิต ดัชนีภาคการบริการจีน
 
สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 23 - 27 ก.ย. 56)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 1.88 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 102.87 เหรียญฯ ขณะที่เบรนท์ลดลง 0.59 เหรียญฯ ปิดที่ 108.63 เหรียญฯ และดูไบปรับลดลงประมาณ 1.4 เหรียญฯ มาอยู่ที่ประมาณ 106 เหรียญฯ
ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง อันเป็นผลมาจากภาวะอุปทานตึงตัวที่คลี่คลายลงในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นกำลังการผลิตที่กลับมาบางส่วนของลิเบีย หลังจากท่อขนส่งน้ำมันดิบทางตะวันตกของประเทศกลับมาดำเนินการได้ รวมถึงกำลังการผลิตของอิรักที่ปรับเพิ่มขึ้นภายหลังการซ่อมรอยรั่วของท่อขนส่งน้ำมันดิบ นอกจากนี้ อิหร่านเองยังมีท่าทีที่ประนีประนอมมากขึ้นในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์กับนานาชาติ โดยอิหร่านยินดีให้ความร่วมมือกับทุกฝ่ายเพื่อให้การเจรจาลุล่วง อย่างไรก็ตาม ราคาน้ำมันดิบไม่ได้ปรับตัวลดลงมากนัก เนื่องจากมีตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีโดยเฉพาะภาคการผลิตของจีนและสหภาพยุโรป รวมถึงตลาดแรงงานสหรัฐฯ ที่เป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน


บันทึกโดย : Adminวันที่ : 30 ก.ย. 2556 เวลา : 11:12:42

24-11-2024
Feed Facebook Twitter More...

อัพเดทล่าสุดเมื่อ November 24, 2024, 5:21 pm